Mask Girl (Netflix 2023) ซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อดังโดยนักเขียน เมมี ฮีเซ ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว กระชับ จบภายใน 7 ตอน จากเว็บตูนที่มีความยาว 3 ซีซั่น 127 ตอน ถูกนำมาขยี้ให้มีความกลมมากขึ้นกว่าเดิม สะท้อนสังคมผ่านหน้ากากที่หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งต้องสวมใส่เอาไว้เพราะเจอความเหลื่อมล้ำที่คนในสังคมยัดเยียดให้เพราะแค่เธอหน้าตาไม่ได้พิมพ์นิยม โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด
Mask Girl เป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน ฆาตกรรม สะท้อนสังคม ที่ให้ความรู้สึกหลอนซ่อนอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงไหนที่ดูแล้วรู้สึกตลก หรือสดชื่นขึ้นเลย แต่เมื่อดูแล้วกลับได้แต่ข้อคิดดี ๆ และความรู้สึกได้ขบคิดอะไรต่อ นี่คือที่ซีรีส์ได้ทิ้งไว้ให้กับเรา
อ่าน: Mask Girl บน Webtoon Thailand
เรื่องย่อ Mask Girl (มาสก์เกิร์ล)
Kim Mo Mi คิมโมมี เด็กสาวผู้มีความสามารถด้านการร้องเพลงและเต้นตั้งแต่ยังเด็ก ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดารา อยากเป็นที่รักของทุกคน แต่เมื่อโตมา เธอกลับมีหน้าตาไม่ตรงตามพิมพ์นิยมของสังคม จึงทำให้ถูกเปรียบเทียบกับสาวที่มีหน้าตาตามพิมพ์นิยมในสังคมอยู่เสมอ ซ้ำยังถูกแม่แท้ ๆ บั่นทอนจิตใจให้คิมโมมีรู้สึกแย่กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้คนที่สดใสและมองโลกในแง่ดีอย่างเธอต้องเติบโตขึ้นมาเป็นคน ‘เทา ๆ’
แต่ใครจะรู้ว่าในเวลากลางคืนนั้น เธอเป็น BJ (Broadcast Jockey) สาวใส่หน้ากากชื่อดังที่ใครต่อใครก็รู้จัก นามว่า Mask Girl โดยเธอมีจุดเด่นคือหน้าอกที่ใหญ่ กลมกลึง เต่งตึงตามธรรมชาติ แม้จะมีรูปร่างผอมเพรียว แต่ในขณะเดียวกันก็มีเอวที่โค้งมนสวยงาม สะโพกก็กลมเป็นทรงนาฬิกาทราย ทำให้คิมโมมี เป็นสาวที่มีรูปร่างดั่งฟ้าประธาน …และมีจุดสังเกตที่ ไฝที่มืออยู่ตำแหน่งเดียวกันทั้งสองข้าง !!!!
Mask Girl เป็น BJ สาวสุดเซ็กซี่ที่ความสามารถล้นเหลือ สามารถร้องเพลงและเต้นได้อย่างมืออาชีพ และยังดูแลแฟน ๆ ที่ส่งของขวัญและดูไลฟ์สตรีมของเธอได้อย่างดีเยี่ยมกว่า BJ สาวคนอื่น ๆ จึงทำให้ความฮอตของเธอหยุดไม่อยู่ และเรื่องก็แดงขึ้นเพราะมีชายหนุ่มคนหนึ่งในบริษัท ผู้มีหน้าตาไม่ตรงตามพิมพ์นิยมของสังคมเช่นกันนามว่า จูโอนัม โดยจูโอนัมเป็นผู้จัดการฝ่ายที่คิมโมมีทำงานอยู่ และเขาก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับตัวยงผู้สนับสนุนไลฟ์ของเธออย่างสม่ำเสมอ เขาจับสังเกตได้ว่าคิมโมมีนี่แหละคือมาสก์เกิร์ลที่รักยิ่งของเขา และเขาก็ทนไม่ได้ที่จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของคิมโมมี และอดไม่ได้ที่จะส่งอีเมลล์ลึกลับไปหาคิมโมมีเพื่อทำให้คิมโมมีรู้ว่า มีคนรู้แล้วว่า เ ธ อ คื อ ใ ค ร !!!!
วันหนึ่งคิมโมมีที่กำลังหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเพราะได้เห็นกับตาว่าหัวหน้าหนุ่มสุดฮอตกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ อีอารึม สาวผู้มีใบหน้าตามพิมพ์นิยมที่พวกผู้ชายในฝ่ายชอบเอามาเปรียบเทียบให้คิมโมมีรู้สึกแย่อยู่เสมอ จากที่เธอรู้สึกตระหนกอยู่แล้วจากเรื่องที่มีอีเมล์แปลก ๆ ขู่เธอ คิมโมมีจึงสติแตก ทำเรื่องที่ไม่สมควรทำหลายอย่าง จนทำให้เธอได้มาพบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่วางแผนมาเพื่อทำร้ายเธอทั้งร่างกายและข่มเหงจิตใจ ทำให้จูโอนัมที่ตามสตอล์คเกอร์อยู่ทนไม่ไหวเสนอตัวเข้าช่วยคิมโมมี
…และนี่คือชนวนเหตุของเรื่องราวทั้งหมด!!!
รีวิว Mask Girl (มาส์กเกิร์ล)
(อาจมีการสปอยล์เนื้อหาสำคัญ) ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมการผลิตซีรีส์ในฐานะแฟนมังฮวา Mask Girl ที่ตามอ่านมาตั้งแต่ใน Webtoon ว่าเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดของ Mask Girl ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เป็น 7 ตอนที่กระชับ และเก็บครบถ้วนทุกรายละเอียดหลัก แม้เรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ จะถูกดัดแปลงหรือตัดออกไปบ้าง เช่น ตามจริงแล้วคิมมีโมลูกสาวของคิมโมมีจะต้องเป็นลูกของผู้กำกับที่คิมโมมีคบหาด้วย แต่ในซีรีส์มีการดัดแปลงให้เป็นลูกของคนที่คิมโมมีเคยมีความสัมพันธ์ด้วย ในจุดนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นลูกของหัวหน้าฝ่าย หรือจูโอนัม ซึ่งจุดนี้ค่อนข้างมีการเล่นกับอารมณ์และความรู้สึกมากพอสมควร เนื่องจากจูโอนัมได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศคิมโมมีโดยที่เธอไม่เต็มใจ หรือ คิมโมมีกับซุนแอตามมังฮวาคือเกลียดกันมาก่อนจริง แต่มีการร่วมมือกันในภายหลังเนื่องจากเจอประสบการณ์ชีวิตที่เลวร้ายมาเหมือนกัน และจะไม่ใช่เพื่อนรักที่สามารถตายแทนกันได้ เพราะต่างคนต่างเหลี่ยม แต่ซุนแอจะมีความเหลี่ยมมากกว่า แต่หากโฟกัสเฉพาะเนื้อเรื่องที่ตัวซีรีส์พยายามจะเล่าในรูปแบบซีรีส์คนแสดงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้
เนื้อเรื่องมีความเหลาได้กลมขึ้นจากมังฮวา ตัวละครมีความเป็นมนุษย์และสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างมีที่มาที่ไป และมีจุดเริ่มต้นและจุดจบในแบบของมันเอง
เมื่อหน้ากากเปรียบได้ดั่งกระจกสะท้อน
แม้คิมโมมีจะโดนบูลลี่จากคนในสังคมว่าเธอไม่สวยจนต้องใส่หน้ากากเพื่อที่จะมีที่ยืนในสังคม แต่ในขณะเดียวกัน ซีรีส์ก็ได้แสดงให้เห็นว่าคิมโมมีก็เป็นมนุษย์หนึ่งคนที่มีความ ‘เทา ๆ’ เธอเองก็ยังนิยมคนหล่อแต่เปลือกอย่างหัวหน้าฝ่าย ที่ไม่ได้มีดีอะไรนอกจากความหล่อ นั่งแต่งรูปหลงตัวเองไปวัน ๆ ทำงานไม่เป็นแถมยังเจ้าชู้ และคิมโมมีก็ยังมีความรู้สึกอยากแก้แค้นสังคมที่กดทับเธออยู่ลึก ๆ จนทำให้เธอเป็นคนขี้นินทา และมักจะมีประเด็นเมาท์เกี่ยวกับสาวที่ทำศัลยกรรมมาเสมอ
แต่แม้คิมโมมีจะรู้สึกแย่จากการถูกกดทับทางสังคมอย่างไรแต่เธอก็หาหนทางเพื่อได้ใช้ชีวิตอย่างที่เธอเคยอยากใช้มาตลอดอย่างการโดดเด่นดั่งดวงดาวท่ามกลางแสง สี เสียง แต่ทว่าไม่ใช่บนเวทีอย่างที่เธอเคยตั้งใจ แต่กลับเป็นเพียงผ่านหน้าจอไลฟ์เพียงเท่านั้น แต่คิมโมมีก็สามารถอยู่ไปวัน ๆ ได้โดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเพิ่ม แต่แล้วเหตุการณ์ก็พลิกผันอย่างรุนแรงเมื่อเธอไปเจอว่าหัวหน้าที่เธอชื่นชอบ ชื่นชม และให้ความเคารพนั้นมีความสัมพันธ์กับ อีอารึม สาวสวยผู้เป็นที่นิยมของหนุ่ม ๆ ในฝ่าย ผู้ที่มักจะถูกยกยอปอปั้นมากดทับคิมโมมีอยู่เสมอ
อย่างที่บอก… คิมโมมีเป็นตัวละครที่มีความ ‘เทา ๆ’ เมื่อเธอสบโอกาสที่จะได้มีความสัมพันธ์กับหัวหน้าฝ่าย เธอก็กระทำโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมอีกเช่นกัน (เรื่องนี้คิมโมมีทำผิด เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ไม่มีใครสมควรถูกล่วงละเมิดทางเพศอันเป็นสิ่งที่เจ้าตัวไม่สมยอม)
และในขณะนั้นคิมโมมีก็ต้องเผชิญสถานการณ์ชีวิตซวย ๆ ที่ประดังประเดเข้ามาหลายอย่าง ทั้งหัวหน้าฝ่ายที่รับไม่ได้กับเรื่องอื้อฉาวระหว่างเขากับอีอารึมที่ว่อนไปทั่วทั้งบริษัท (ก็คิมโมมีอีกนั่นแหละที่เป็นคนปล่อยข่าว) จนเขาต้องลาออกจากบริษัท คิมโมมีที่ไม่มีหลักในชีวิตก็พังไปเลย ทั้ง ๆ ที่อยู่แบบเจ็บ ๆ ไปตั้งแต่แรกก็คงจะไม่มีอะไรพังไปมากกว่านี้แล้วแท้ ๆ อย่างไรก็ตาม คิมโมมีก็ยังไม่แตกสลาย เพราะเธอยังรู้สึกอยากหาเพื่อนไปกินข้าว และคนที่เธอเลือกไปคือหนึ่งในแฟนคลับตัวยง แต่หารู้ไม่ว่าเธอกำลังถูกหลอกไปทำร้าย ไซเบอร์บูลลี่ และล่วงละเมิดทางเพศ (ซึ่งในจุดนี้ ซีรีส์ก็ได้สอนเราว่าอย่าไว้ใจใครง่าย ๆ) จึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นคือทั้งสองเกิดมีปากเสียงกัน ทะเลาะกัน จนฝ่ายชายพลั้ง หัวกระแทกเสียชีวิต หลังจากนั้นคนที่ดูเหมือนจะหวังดีอย่างจูโอนัมนี่แหละที่เข้ามาทำลายชีวิตของคิมโมมีในคราบของคนที่ห่วงใย เสนอตัวช่วยจัดการศพของชายหนุ่มที่หลอกเธอเพื่อทำร้าย การกระทำของจูโอนัมไม่ใช่ความรักและความห่วงใยอย่างแท้จริง มันคือการสตอล์คเกอร์อย่างน่าขนลุก เข้าหาอีกฝ่ายในขณะที่สภาพจิตใจอ่อนแอ คิมโมมีที่สติแตกอยู่ก็คิดว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือจูโอนัม ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ จูโอนัมน่ะส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งคือ จากคนอื่น และคิมโมมีทำตัวเอง คิมโมมีจึงทำการฆ่าจูโอนัมขณะที่เขากำลังล่วงละเมิดทางเพศเธอ…
ในจุดนี้ของซีรีส์เราจะเห็นได้ชัดว่าคิมโมมีได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง เธอทำศัลยกรรมยกเครื่องมาใหม่ทั้งหน้า ตีความหมายได้ว่าเพราะอยากหลบหนีชีวิตเก่า ๆแววตาที่ว่างเปล่า …ทำให้คิมโมมีในตอนนี้ไม่ใช่คิมโมมีคนเดิมอีกต่อไป แต่เป็นคิมโมมีที่แตกสลาย จากการเป็นคนที่สภาพจิตใจที่ไม่ได้เข้มแข็ง ครอบครัวไม่ได้อบอุ่น ชีวิตโดยรอบอันเลวร้าย และสิ้นหวังในความมั่นใจในตัวเอง
หน้ากากใหม่ที่ไม่ต้องสวมใส่ แต่ก็มี ‘เบื้องหลัง’ อะไรให้ปกปิดอีกมาก…
คิมโมมีปรากฎตัวในร่างที่สวยราวกับนางฟ้าทั่งหน้าตาและรูปร่าง และใช้ชื่อใหม่ว่า อารึม ซึ่งเป็นชื่อของคนที่คิมโมมีอิจฉามาตลอด เป็นสิ่งตอกย้ำว่าลึก ๆ แล้วคิมโมมีก็รู้สึกแบบเดียวกับที่สังคมรู้สึก ว่าอย่างไรเสียการมีหน้าตาที่สวยงามก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นสะพานพิเศษให้เธอมีที่ยืนในสังคม และที่เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัดคือนิสัยที่มีความกร้านโลกมากขึ้น พังจนไม่มีอะไรจะพัง เสียจนไม่มีอะไรจะเสีย แตกสลาย พูดน้อย และรอยยิ้มจางหายไป (ถ้าไม่ใช่เพราะทำงาน หรือการยิ้มให้ซุนแอ ก็ไม่เห็นว่าคิมโมมีจะมีความสุขกับชีวิตในปัจจุบัน)
Mask Girl กลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในข้ามคืน (หากในตอนนี้สร้างตามมังฮวาจะสนุกขึ้นกว่านี้มาก เพราะในประกาศจับ ออกข่าวว่าให้ตามหาผู้หญิงที่มีหน้าตาแบบนี้ ซึ่งหน้าบล็อคนี้มีเกลื่อนประเทศ) คิมโมมีที่มีชีวิตใหม่ ชื่อใหม่ ก็ได้หางานทำ เงินดี แถมยังได้โชว์ความสามารถอย่างการร้องและเต้น แต่ก็ต้องจำใจอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่มีความสุข ป่วยก็ไปหาหมอไม่ได้ ซ้ำยังถูกคุณยาย คิมกยองจา แม่ของจูโอนัมตามล่าเพราะเธอคือคนฆ่าลูกชาย ในจุดนี้ซีรีส์ทำให้เราย้อนกลับมาคิดที่ต้นสายปลายเหตุว่าคิมโมมีน่ะผิดจริงที่ไปฆ่าเขา แต่การที่จูโอนัมตายนั้นตายเพราะคิมโมมีฆ่าไม่มีเหตุผล หรือเพราะเขาไปรนหาที่เองกันแน่นะ ? แล้วถ้าหากเหตุการณ์กลายเป็น… คิมโมมีไม่คิดจะฆ่าจูโอนัม แต่จูโอนัมก็ล่วงละเมิดทางเพศคิมโมมีไปแล้ว ถ้าอย่างนั้น คิมโมมีควรจะสู้จูโอนัมด้วยวิธีไหนล่ะ ? แจ้งความหรอ ? ในเรื่องมีการบอกอย่างชัดเจนว่าตำรวจไม่ค่อยกระตือรือร้นสักเท่าไหร่ แล้วอะไรที่ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อแจ้งตำรวจแล้วจะไม่เจอจูโอนัมตามรังควานอีก ?
นี่คือความสนุกขณะดูซีรีส์เรื่องนี้ เพราะมีปมที่ทิ้งไว้ให้เราขบคิดเรื่อย ๆ
คิมโมมีได้พบกับซุนแอ สาวสวยผู้มีชีวิตซวย ๆ ไม่ต่างจากเธอ ซึ่งซุนแอเนี่ยตามจริงชีวิตไม่ได้ซวยขนาดนั้น แต่ดูเป็นคนที่พาตัวเองไปอยู่ในความซวยเองมากกว่า คือซุนแอ เป็นสาวหน้าตาใกล้เคียงกับคิมโมมี ชื่อก็เชย (อันนี้คือคนในเรื่องล้อเลียนนะ) แต่มีจุดเด่นคือทำงานเก่งมาก ซุนแอในมัยมัธยมได้พบกับบูยอง หนุ่มสุดฮอตที่เป็นเด็กฝึก เขามองเธอเป็นเพียงตู้ ATM จะมาหาก็ต่อเมื่อมีผลประโยชน์ แม้ซุนแอจะรู้ตัวว่าถูกหลอกใช้ ซุนแอจึงแก้แค้นด้วยการแฉบูยอง ทำให้เขาหมดอนาคต จบสิ้นกับเส้นทางการเป็นไอดอล โดยที่ในตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้ว่าคนที่แฉเขาคือใคร
ซุนแอในวัยสาวสะพรั่งที่ตอนนี้ศัลยกรรมจนสวยก็ได้พบกับบูยองในสภาพที่ดูไม่จืด คงด้วยความรู้สึกผิดระคนอยากเอาชนะบูยองให้ถึงที่สุด ซุนแอจึงเลือกที่จะเล่นกับไฟ คบหาและมีอะไรกับบูยอง โดยมีข้อแม้ว่าเขาจะอยู่กับเธอไปก่อนก็ได้ แต่ต้องช่วยเธอทำงาน แต่ทว่าบูยองก็ไม่ทำตามนั้น แถมซุนแอยังต้องทำงานหนักขึ้นจนต้องมาทำงานที่ไนท์คลับเพื่อหาเลี้ยงบูยอง และสถานที่นี้ทำให้ซุนแอได้พบกับคิมโมมี ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันทันทีด้วยชีวิตที่บัดซบเหมือน ๆ กัน
คิมกยองจายังคงตามล่าคิมโมมี แต่จับตัวผิด ไปจับตัวซุนแอ ต้องบอกก่อนว่าตามมังฮวาซุนแอกับคิมโมมีนี่จะมีหน้าตาที่คล้ายกันมากราวกับฝาแฝด ทำให้หลายคนจำผิด ๆ ถูก ๆ มานักต่อนัก ซุนแอก็สามารถรอดจากการจับตัวของคิมกยองจามาได้ บวกกับบูยองยังคงทำตัวเป็นแมงดา ไม่ยอมไปทำงาน นั่งเล่นแต่เกม อยู่ห้องเน่า ๆ รอไถเงินและไถอาหาร ขยะก็ไม่เอาไปทิ้ง ทำให้ซุนแอหมดความอดทนไล่เขาไป เขาไม่ยอมไป และเขาจับได้ว่าซุนแอคือคนแฉ เลยเริ่มทำร้ายร่างกายอย่างหนัก คิมโมมีรู้เลยจะพาหนี แต่ซุนแอก็หนีบูยองไม่พ้น เลยทำให้ทั้งสองต้องร่วมมือกันกำจัดบูยองทิ้ง เพราะไม่อย่างนั้นได้ตายคู่แน่ ๆ
ในฉากดังกล่าวต้องขอชื่นชมว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ทุกตัวละครเป็นสีเทา ๆ ไม่มีใครที่จู่ ๆ มาถูกกระทำอย่างน่าสงสาร ทั้งแสดงให้เห็นว่าซุนแอจริง ๆ สามารถเลือกชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ แต่เธอก็เลือกที่จะเอาขยะมาอยู่ในชีวิตเองจนทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่ควรถูกทำร้ายอย่างโหดร้ายแบบนี้
คิมโมมีรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง แต่ก็ยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกให้ดีให้ได้ ซุนแอกับคิมโมมีตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน แต่ก็หนีคิมกยองจาไม่พ้น สุดท้ายคิมกยองจาทำปืนลั่น (จริง ๆ ก็ตั้งใจยิงนั่นแหละ แค่ไม่รู้ว่าจะโดนใคร) ใส่ซุนแอ ทำให้คิมโมมีต้องกำราบคิมกยองจาให้อยู่หมัด โดยการทิ้งรถที่มีคิมกยองจาและศพของบูยองลงน้ำ
อันที่จริงบทของคิมกยองจาเป็นการตีแผ่มุมมองของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เลือกคู่ชีวิตผิดจนต้องทำงานหาเงินคนเดียว และต้องต่อสู้กับสังคมแห่งการแก่งแย่งแข่งขันว่าลูกใครดีกว่ากัน ตามจริงคิมกยองจาเป็นคนที่เก่งมาก ทำงานได้ทุกอย่างเพื่อลูกโดยไม่สนว่าจะเบียดเบียนใครหรือไม่ ใจสู้มาก ใจแกร่ง ตายเป็นตาย หมัดแลกหมัด เพราะต้องหาเลี้ยงปากท้องอย่างยากลำบาก แต่คิมกยองจาแม้จะรักลูกแต่ก็ไม่รู้จักการสอนที่ถูกต้องจึงใช้วิธีดุด่า และดูถูกลูกชาย (จูโอนัม) จนต้องกลายเป็นคนเก็บตัว และเริ่มบ่มเพาะความเก็บกด ติดนิสัยสตอล์คเกอร์ และหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ …คิมกยองจาเลี้ยงลูกผิดแต่คิดว่าตัวเองถูก และไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นส่งผลต่อสภาพจิตใจลูก แต่กลับเลือกที่จะโทษคนอื่นก่อนเป็นอันดับแรก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีส่วนผิดไม่แพ้ใคร
สถาบันครอบครัวคือเกราะที่แข็งแกร่ง
คิมโมมีตัดสินใจคลอดลูก ยอมบากหน้ากลับมาหาแม่ทั้ง ๆ ที่ตัดขาดกันไปนานแล้ว ขอร้องให้แม่ช่วยเลี้ยงลูกสาวให้ ก่อนที่ตัวเองจะตัดสินใจมอบตัวเพื่อติดคุก ขอชมในส่วนนี้ว่าตีความมิติของแม่คิมโมมีออกมาได้ดีมาก คือตามมังฮวา แม่ของคิมโมมีไม่แสดงความรักกับลูกและไม่รู้สึกว่าเขารักลูกเลย เพราะแม่เป็นคน Perfectionist หนักมาก อาหารก็ต้องเป็นอาหารคลีน และยิ่งคิมโมมีไม่สวยตามที่แม่คาดหวังจึงทำให้แม่รู้สึกเกลียดลูกตัวเอง บวกกับสามี (พ่อของคิมโมมี) ฆ่าตัวตายไปด้วย ซึ่งในจุดนี้ซีรีส์ไม่ได้อธิบายว่าฆ่าตัวตายเพราะอะไร อย่างที่บอก สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้คิมโมมีเติบโตมาแบบไม่อบอุ่น ขาดความมั่นใจในตัวเองและมีปม ซึ่งในซีรีส์ แสดงให้เห็นถึงความไร้ความรู้สึกต่อสิ่งรอบข้างและใจดำของแม่คิมโมมีที่เหมือนเป็นกำแพงน้ำแข็งที่ใช้หลบหลีกตัวเองจากสังคมออกมาได้เป็นอย่างดี
คิมโมมีที่ในตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากสาวออฟฟิศที่ยังมีความสนุกหลงเหลือให้เห็น กลายมาเป็นคนที่ไร้ซึ่งรอยยิ้ม หมดอาลัยตายอยากในชีวิต และสู้คนแบบหัวชนฝา ตายเป็นตาย ไม่มีอะไรจะเสีย ซึ่งเราชอบการตีความของซีรีส์ในตอนนี้มาก อย่างในมังฮวา ตัวคิมโมมีแม้จะติดคุกแต่ก็ยังมีความห่วงสวย ยึดติดกับโลกภายนอก และดูไม่นิ่ง
แต่ในซีรีส์ตีความให้เป็นคนจิต ๆ หมดอาลัยตายอยาก แต่ก็สู้ยิบตา
สุดมาก !!!
แม่ของคิมโมมีตัดสินใจรับเลี้ยงหลานเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่อ่านยาก ลูกของคิมโมมีมีชื่อที่ตั้งง่าย ๆ ว่า คิมมีโม ที่แปลว่าความสวยงามเหมือนกับชื่อของคิมโมมี โดยรวมตัวละครคิมโมมีเป็นเด็กที่น่าสงสาร ด้วยว่าสถาบันครอบครัวไม่อบอุ่นไม่แข็งแกร่ง แม้คุณยายแท้ ๆ จะไม่ได้เลี้ยงดูด้วยการแสดงออกถึงความรักมากนัก แต่ก็ไม่ได้ให้อยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ คิมมีโมมีโทรศัพท์ดี ๆ ใช้ มีเสื้อผ้าสะอาด ๆ ใส่ เพียงแต่คิมมีโมในวัยเด็กยังคงมีความรักสวยรักงามและชอบร้องรำทำเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณยายรับไม่ได้อย่างเด็ดขาด เลยทำให้คิมมีโมมีคุณยายคิมกยองจา (แม่ของจูโอนัม) เป็นที่พึ่ง
โดยคุณยายคิมกยองจาก็จะเป็นคนคอยยุงยง คอยปั่น คอยใส่ไฟ ปล่อยข่าวลือว่าคิมมีโมเป็นลูกสาว Mask Girl ทำให้คนอื่น ๆ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่มีเพื่อนคบหา ทำให้คิมมีโมไม่มีที่ยืนในสังคมเพื่อที่จะได้มีตัวเองเป็นที่พึ่งคนเดียว ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะคิมมีโมรักคุณยายคิมกยองจามากกว่าคุณยายแท้ ๆ เสียอีก ในจุดนี้เราจะเห็นได้ว่า คิมมีโมเป็นเด็กที่น่าเห็นใจ เพราะเติบโตมาอย่างไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไร เคว้างคว้าง และไร้ที่พึ่งพา แต่ส่วนตัวมองว่าคิมมีโมเข้มแข็งมาก ๆ อย่างแฟนเราถึงกับออกปากเลยว่า “ดีแค่ไหนที่เด็กคนนี้โตมาแล้วไม่บ้า” ฮ่า!
โชคดีหน่อยที่มีเยซุนเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ซึ่งในซีรีส์ก็ได้ปรับบทให้กลมกล่อมขึ้น โดยตัดฉากคิมมีโมทำร้ายเยซุนเพราะเยซุนโกหกออก แต่เปลี่ยนเป็นทะเลาะกันแทน โดยเบื้องหลังก็คุณยายกยองจานี่แหละเป็นคนปั่นให้เด็กเข้าใจผิดกัน อย่างเยซุนนี่จริง ๆ เป็นเด็กที่มีครอบครัวน่ารักและอบอุ่นมาก แต่จะเป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่อยากได้รับการยอมรับ แต่ก็เข้ากับเพื่อนกลุ่มที่มีนิสัยแตกต่างกันไม่ได้ เลยต้องเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีการโกหกเพื่อให้ตัวเองมีสังคม เห็นแล้วก็นึกถึงตัวเองสมัยเด็กเหมือนกัน กลุ่มเพื่อนและสังคมรอบข้างในโรงเรียนคือที่สุดของชีวิต บางครั้งเราก็ทำอะไรโง่ ๆ เพื่อให้ตัวเองเป็นจุดสนใจหรือให้เพื่อนยอมรับ แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ยั่งยืน เพราะเราจะได้แค่ความสนใจจากคนที่ไม่ได้รักเราจริง ๆ ซึ่งสิ่งที่ควรทำคือ หากโดนแกล้ง โดนบูลลี่ ก็แจ้งไปยังครู และผู้ปกครอง ใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหา และก็ตั้งใจเรียน ตั้งใจค้นหาอนาคต
แต่ก็เข้าใจได้ว่าเด็กวัยแค่ 14-15 คงไม่ทันมานั่งคิดอะไรรอบคอบได้ขนาดนั้น
จากนักโทษที่ประพฤติดีมาตลอด 10 กว่าปี สุดท้ายคิมโมมีก็ถูกคิมกยองจาปั่นหัวจนสำเร็จ คิมโมมีจึงคิดจะแหกคุกเพราะห่วงลูก
และในพาร์ทนี้เราจะได้เห็นว่ามีนักโทษหญิงที่มีรอยสักโดดเด่นคนหนึ่งเข้าหาคิมโมมีอย่างชื่นชม เนื่องจากคิมโมมีมีชื่อเสียงในด้านติดคุกเพราะฆ่าคนที่ข่มขืนตัวเอง แต่เธอเองนั้นไม่กล้าพอที่จะฆ่าใคร เลยทำได้แค่ตัดอัณฑะของคนที่จะข่มขืนเธอ จุดนี้ซีรีส์แสดงให้เราเห็นถึงความน่าเห็นใจในมุมของเหยื่อที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้มากกว่านี้
ซีรีส์ได้ทิ้งปมเหล่านี้ไว้ให้เราว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวเหล่านี้ผิดที่ใคร และสิ่งที่คิมโมมีทำ กับสิ่งที่อาชญากรข่มขืนทำนั้น ถูกต้องและสมควรแก่เหตุหรือไม่ ให้เราไปคิดต่อเอาเอง ว่าถ้าเป็นเรา ควรจะทำอย่างไร …
ท้ายที่สุด ซีรีส์ได้เผยให้เราเห็นถึงความเทา ๆ ของมนุษย์ ที่สุดท้ายคุณยายคิมกยองจาก็เป็นบ้า ขาดสติในท้ายที่สุด จุดนี้เข้าใจว่าซีรีส์ต้องการให้ตัวละครคุณยายคิมกยองจามีความ ‘ไปสุด’ เพราะในมังฮวาจะเป็นการจบแบบปลายเปิด คือ คิมกยองจาจะมีความใจอ่อนลึก ๆ ให้กับคิมมีโม และแอบทิ้งกุญแจไว้ให้หาทางออกจากบ้านที่กำลังมีไฟไหม้ลุกท่วมด้วยตัวเอง และคิมกยองจาก็หนีไป ไม่มีใครได้พบเห็นอีก แต่ในซีรีส์คือคิมกยองจามีเป้าหมายชัดเจน และทำจนสุดทาง (ซึ่งจะเชื่อมโยงกับกับนิสัยของคิมกยองจาที่เนื้อเรื่องพยายามปูให้เราเห็นว่าคิมกยองจาเป็นคนสู้ชีวิตสุดขีดมาตั้งแต่สมัยสาว ๆ)
และที่รู้สึกว่าตีความออกมาได้ดีมากที่สุดคือตอนจบที่ซีรีส์เขียนให้คิมโมมีรับกระสุนแทนลูก เนื่องจากตัวคิมมีโมเองก็ไม่ได้มีความทรงจำใดเกี่ยวกับแม่ และไม่ได้มองว่าแม่เป็นคนดี การที่ซีรีส์ทำให้คิมโมมีตายแทนลูกนั้นถือเป็นการลบล้างอคติภายในใจของคิมมีโมที่มีต่อแม่จนหมดสิ้น ที่สำคัญไม่มีบทพูด ไม่ยืดเยื้อ ไม่มีคำอำลาใด ๆ ให้รำคาญใจ ตัวละครถ่ายทอดออกมาถึงกันและกันด้วยสายตาและอารมณ์ความรู้สึกล้วน ๆ ตีแผ่ออกมาได้เรียลมาก อีกอย่าง ต่อให้คิมโมมีไม่รับกระสุนแทนลูก ก็ต้องติดคุกตลอดชีวิตอยู่ดี ซึ่งเรามองว่าจุดนี้เป็นทางลงที่สวยที่สุดสำหรับคิมโมมีแล้ว แต่ในมังฮวาจะเป็นคิมโมมีหนีตลอดชีวิต และแอบกลับมาเฝ้ามองลูกเป็นระยะ ๆ ไม่บ้าก็เหมือนบ้า …
อย่างไรก็ตาม อีกจุดหนึ่งที่สะท้อนสังคมไม่แพ้กันคือการที่สื่อคอยแต่ขยี้ข่าวรัว ๆ ว่าคิมโมมีเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ไม่มีใครสนใจขุดคุ้ยเลยว่า การที่คิมโมมีทำไปนั้นเกิดมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไร เพราะการขยี้ข่าวฆาตกรต่อเนื่องสุดเซ็กซี่สวมหน้ากาก เป็นอะไรที่สังคมจะสนใจและขายได้มากกว่าข่าว BJ สาวใส่หน้ากากลงมือฆ่าอาชญากรเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกข่มขืน
นอกจากนี้ ซีรีส์ Mask Girl สามารถถ่ายทอดมุมมองจากมังฮวาสู่จอโทรทัศน์ได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ สามารถถ่ายทอดภาพบนเวที การสตรีมมิ่งของมาส์เกิร์ล หรือสถานที่ต่าง ๆ เช่น บ้านของแม่คิมโมมี บ้านของคุณยายคิมกยองจาบนภูเขา ได้ราวกับแกะออกมาจากมังฮวาไม่มีผิดเพี้ยน เห็นแล้วรู้สึกได้ถึงความเคารพในต้นฉบับและแฟนมังฮวาอย่างที่สุดของผู้สร้าง
ส่วนเรื่องเพลงกับเสียงเอฟเฟกต์ประกอบ มีความรู้สึกว่าค่อนข้างไปทางหลอน ๆ เพี้ยน ๆ แม้จะมีการเล่นเพลงสนุกสนาน แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกหลอนซ่อนอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงไหนที่ดูแล้วรู้สึกตลก หรือสดชื่นขึ้นเลย
นอกจากนี้ ตัวซีรีส์ยังมีการใช้ฟอนต์และคู่สีแบบเดียวกับในมังฮวา โดยใช้สีเหลืองในพาร์ทแรก สีส้มในพาร์ทสอง และสีเขียวนกเป็ดน้ำในพาร์ทสุดท้าย
สรุปแล้วซีรีส์ Mask Girl เป็นซีรีส์สะท้อนสังคมอย่างแท้จริงที่ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่งค่ะ สามารถรับชมได้ที่ Netflix Mask Girl (Netflix 2023) 7 ตอนจบ หรืออ่านมังฮวา Mask Girl บน Webtoon Thailand หากใครดูแล้วได้แง่คิดอะไรใหม่ ๆ นอกเหนือจากที่พลอยวิเคราะห์ไว้ สามารถมาพูดคุย แบ่งปันความคิดเห็นกันได้นะคะ
