ถ้าคุณชอบการเที่ยวแบบไม่ลำบากแต่ก็อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ริมน้ำและป่าเขา เราขอแนะนำสวนละไม จังหวัดระยอง กับที่พักสไตล์รถบ้าน ให้เราได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติแต่ก็ได้รับความสะดวกสบายประหนึ่งอยู่ในห้องพัก
ราคาที่พักรถบ้าน สวนละไม
รถบ้านออกแบบมาให้พักได้สูงสุด 4 คน โดยแบ่งเป็น 2 ราคาคือ
- วันจันทร์-ศุกร์ คืนละ 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน
- วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด คืนละ 3,000 บาท พร้อมชุดอาหารเช้าสำหรับ 2 คน
รายละเอียดเพิ่มเติม
- ในกรณีที่ต้องการเพิ่มอาหารเช้าสำหรับคนที่ 3 และ 4 คิดเพิ่มคนละ 500 บาท
- เด็กอายุไม่เกิน 4 ขวบเข้าพักฟรี
- ถ้าต้องการนำสัตว์เลี้ยงหมาแมวมาด้วย ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กก. และพักได้ฟรี โดยมีรถบ้านสำหรับผู้ที่นำมหาแมวมาด้วย แต่ต้องแจ้งตั้งแต่ตอนจอง หากไม่แจ้งก่อนจะไม่อนุญาตให้เข้าพัก
ติดต่อสอบถามและจองที่พักได้ที่ไลน์ @suanlamaicamp
สิ่งอำนวยความสะดวกในรถบ้าน
จุดต่างสำคัญในการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ก็คือโดยทั่วไปแล้วเรามักนึกถึงการกางเต็นท์ตั้งแคมป์ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่รักความสบาย ดังนั้นการเลือกใช้บริการรถบ้านจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกดังนี้
- แอร์
- ตู้เย็นขนาดเล็ก
- ห้องน้ำในตัวรถ
- สบู่เหลวและแชมพู
- ผ้าเช็ดตัว
- ไดร์เป่าผม
- กาต้มน้ำร้อน
- ไฟฉาย
- ปลั๊กพ่วงสามตา
- น้ำดื่ม
- แก้วน้ำ
- แก้วชากาแฟ
- เตาปิ้งบาร์บีคิว
- ชุดจานชามช้อนส้อม
- จักรยาน 1 คัน
ซึ่งอุปกรณ์บางอย่างถูกจัดวางไว้ให้อยู่แล้ว แต่ของบางอย่างก็สามารถสอบถามเพิ่มได้จากพนักงานครับ
บรรยากาศการเข้าพักรถบ้าน ณ สวนละไม
เมื่อมาถึงที่พัก จะเห็นรถบ้านจอดเรียงรายทอดยาวไปไกล โดยรถบ้านแต่ละคันก็เว้นระยะเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนของการผู้เข้าพัก และเราสามารถขับรถเข้าไปจอดข้างรถบ้านของเราได้เลย ไม่ต้องแบกของเดินไกล
แม้ว่าที่นี่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้แล้ว แต่ผมก็แนะนำว่าควรซื้อน้ำขนมอาหาร รวมถึงยาสีฟันแปรงสีฟัน ฯลฯ สำหรับการค้างคืนปาร์ตี้ตั้งแคมป์ให้เรียบร้อย แต่ถ้าขาดเหลืออะไรจริงๆ ก็มีร้านขายของอยู่ใกล้ๆ ในระยะที่เดินได้ ซึ่งตัวเลือกในร้านก็ไม่ได้เยอะมากนัก และก็มีการชาร์จราคาเพิ่มมากน้อยแล้วแต่สิ่งของ
ถ้าเกิดหิวขึ้นมาและยังไม่ทันได้ตั้งเตาปาร์ตี้ ที่นี่ก็มีร้านข้าวบริการครับ พนักงานจะนำเมนูมาให้เราถึงรถบ้านเลย โดยร้านข้าวจะเปิดถึง 18:30 น. ส่วนร้านค้าจะเปิดถึง 21:30 น.
ในตัวรถบ้านมีฟังก์ชั่นพื้นฐานสำหรับการอาศัยครบถ้วน แต่ขนาดก็ค่อนข้างกระทัดรัด ขนาดเตียงเหมาะกับคนสูงไม่เกิน 170 ซม. จะนอนได้ค่อนข้างสบาย แต่ถ้าสูงเกิน 180 ซม. ก็จะแน่นหน่อยๆ ถ้าเข้าพัก 2 คน ก็สามารถใช้พื้นที่เตียง 2 ชั้นเป็นจุดวางสัมภาระได้ แต่ถ้าเข้าพักครบ 4 คนตามจำนวนที่นอน ก็ต้องเปลี่ยนมาเก็บของที่ตู้ต่างๆ แทน
ปลั๊กไฟมีให้ใช้งาน 1 จุด 2 ช่อง และรองรับปลั๊กแบบ 3 ขา มีไมโครเวฟและตู้เย็นให้ใช้ ซึ่งผมลองแช่น้ำแข็งทั้งคืนก็ไม่ละลาย ถือว่าตู้เย็นยังทำงานได้ดีครับ ส่วนไฟส่องสว่างในตัวรถมี 3 จุด คือบริเวณทางเข้า, เตียง, และห้องน้ำ แต่ละจุดสามารถเปิดปิดไฟได้อิสระแยกกัน
ในช่วงกลางวันแนะนำให้เปิดม่านรับแสงและบรรยากาศธรรมชาติจะดีกว่า แต่ไม่แนะนำให้เปิดหน้าต่างหรือเปิดประตูรถทิ้งไว้ เพราะที่นี่ก็คือป่าเขามียุงมากมายครับ …ดังนั้น ควรซื้อสเปรย์กันยุงมาด้วย
ส่วนสุดท้ายคือห้องน้ำที่มีตู้อาบน้ำพร้อมประตูปิด เพื่อไม่ให้น้ำหกเลอะเทอะพื้นส่วนอื่น ชักโครกก็สามารถใช้งานได้ปรกติเนื่องจากมีการต่อท่อระบบน้ำต่างๆ มาเรียบร้อย ในกรณีที่ต้องการระบายกลิ่นก็สามารถเปิดหน้าต่างบานเล็กๆ ด้านข้าง แล้วรูดม่านปิดเพื่อป้องกันสายตาภายนอกได้ ส่วนสบู่และยาสระผมเป็นขวดปั๊ม ซึ่งผมแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ก็พกมาเองจะดีกว่า รวมถึงยาสีฟันและแปรงสีฟันด้วย
ภายในตัวรถมีป้ายบอกเบอร์โทรสำคัญเพื่อติดต่อพนักงานฝ่ายต่างๆ รวมถึงชี้แจงค่าเสียหายในกรณีที่เราทำของใช้ชำรุด
ในภาพรวมแล้วถือว่ารถบ้านให้ความสะดวกสบายมาก แอร์ก็ฉ่ำเหมือนพักตามโรงแรม แต่ก็ต้องบอกว่าสภาพก็เสื่อมโทรมตามอายุการใช้งานอยู่เหมือนกันครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องของความสวยงาม แต่ถ้าในแง่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ทำได้ครบถ้วนไม่มีปัญหาใดๆ
การตั้งเตายามค่ำคืน
กิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับการออกทริปแบบนี้ก็คือการตั้งเตา ซึ่งเราสามารถยืมจานช้อนส้อม รวมถึงเตาบาร์บีคิวได้ ส่วนถ่านและแอลกอฮอล์สำหรับจุดเตาก็มีขายที่ร้าน …เอาเป็นว่าขาดเหลืออะไรก็ลองถามพนักงานก่อน เค้าอาจมีให้ยืมครับ
บริเวณรอบตัวรถบ้าน มีเต็นท์ป้องกันแดดและฝน ถ้าเราอยู่ในตัวรถแล้วได้ยินเสียงเคาะก็ไม่ต้องตกใจ มันคือเสียงเต็นท์โดนลมพัดกระแทกกับตัวรถนั่นเอง นอกจากนี้ก็มีปลั๊กไฟภายนอกและหลอดไฟให้แสงสว่าง ให้เราสังสรรค์พักผ่อนกันได้ยาวๆ ทั้งคืน …แต่ถ้าจะซื้อขนมและเครื่องดื่ม อย่าลืมว่าร้านค้าปิด 21:30 น. นะครับ ควรซื้อตุนไว้ก่อน
โต๊ะและเก้าอี้มีเยอะแบบเหลือเฟือ ถังขยะก็อยู่ในระยะที่ไม่ไกล ส่วนการล้างจานชามก็มีอ่างล้างจานพร้อมน้ำยาและฟองน้ำให้เราใช้ได้ อารมณ์แบบบ้านๆ
กิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ในช่วงที่แดดไม่แรง การออกมานั่งชิลหรือแม้แต่จะกางโน้ตบุ๊คทำงานก็รู้สึกดีไปอีกแบบ หรือจะถอดสมองเดินเล่นรอบๆ ที่พักก็รู้สึกผ่อนคลายเหมือนกัน
และยังมีฟาร์มแกะอยู่ติดกับที่พัก สามารถเดินไปเล่นกับแกะได้ โดยเข้าได้ฟรีเวลา 8:00 – 17:00 น. ไม่มีค่าบริการ
ถ้าอยากได้ที่นั่งชิลๆ อารมณ์ค่าเฟ่ ก็มีร้านกาแฟ ร้านสเต็ก โดยร้านกาแฟเปิด 8:00-18:00 น. ส่วนร้านสเต็กเปิด 10:00-18:00 น.
บทสรุป
การเที่ยวรูปแบบนี้ เหมาะกับคนที่ต้องการหนีจากความวุ่ยวายในชีวิตประจำวัน มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาและสายน้ำ โดยกินนอนได้สะดวกสบาย ซึ่งถ้าชอบการออกทริปนอนรถบ้าน ที่จริงแล้วทาง M Vision ก็มีความร่วมมือกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อยู่หลายแห่ง ลองหาแนวที่ชอบก็ได้ครับ