มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP Ratings คืออะไร IP54, IP57, IP65, IP68 และอื่นๆ กันน้ำได้ระดับไหน

หลายๆ คนที่กำลังสนใจซื้ออุปกรณ์ไอที โดยเฉพาะมือถือ หูฟัง และสมาร์ทวอทช์ มักจะเห็นสเปคการกันน้ำกันฝุ่น IP Ratings เช่น IP54, IP57, IP65, IP68, IP6X, IPX8, IP65/68 และอีกหลายรูปแบบ วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักว่าตัวเลขเหล่านี้คืออะไร ตีความอย่างไรครับ

IP Ratings คืออะไร

IP ย่อมาจาก Ingress Protection แปลเป็นไทยแบบตรงตัวคือการป้องกันการเข้า อธิบายกันแบบเข้าใจง่ายๆ คือเอาไว้บอกว่าอุปกรณ์ของเราสามารถป้องกันไม่ให้สิ่งไม่พึงประสงค์อย่างเศษฝุ่นกินดินทาย รวมถึงน้ำเข้ามาในเครื่องเราได้ดีแค่ไหน

วิธีอ่านค่าตัวเลข

IP Ratings เวลาเขียนจะเขียน IP ตามด้วยตัวเลข 2 หลัก เช่น IP57, IP65, IP68 เป็นต้น ตัวเลขด้านหน้าเป็นเลขที่เอาไว้ใช้บ่งบอกประสิทธิภาพในการกันอนุภาคของแข็ง เช่น เศษฝุ่น เศษดิน เศษทราย ส่วนเลขตัวหลังเอาไว้บ่งบอกประสิทธิภาพในการกันของเหลว ซึ่งความหมายของแต่ละตัวเลขตามตารางด้านล่างนี้เลย

เลขตัวหน้า (การป้องกันจากของแข็ง)
Xไม่มีการป้องกัน
1ป้องกันของแข็งชิ้นใหญ่ เช่น มือ
2ป้องกันจากของแข็งที่มีขนาดใกล้เคียงกับนิ้วมือ
3ป้องกันจากของแข็งขนาดใกล้เคียงกับสายไฟเส้นเล็กๆ
4ป้องกันจากของแข็งขนาดใกล้เคียงกับเล็บ
5ป้องกันฝุ่นในระดับที่ฝุ่นเข้าได้แต่จะไม่สร้างความเสียหาย
6ป้องกันฝุ่นได้ 100%
เลขตัวหลัง (การป้องกันจากของเหลว)
Xไม่มีการป้องกัน
1ป้องกันจากน้ำที่ตกลงมาตรงๆ เช่น ฝนปรอยๆ
2ป้องกันน้ำที่ตกลงมาทำมุม 15 องศา
3ปเองกันน้ำที่ฉีดออกมาในรูปแบบสเปรย์ในมุมต่างๆ
4ป้องกันน้ำกระเซ็นจากทุกมุม
5ป้องกันการโดนน้ำฉีดใส่
6ป้องกันน้ำฉีดใส่ด้วยกำลังแรงสูง
7สามารถจมน้ำลึกได้ 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที
8สามารถจมน้ำลึกได้มากกว่า 1 เมตรตามความลึกและระยะเวลาที่กำหนด
9ป้องกันน้ำอุณหภูมิสูงที่ฉีดใส่ด้วยกำลังแรงสูง

วิธีอ่านก็คืออ่านตามตัวหน้าและตัวหลังได้เลย เช่น IP57 คือสามารถป้องกันฝุ่นในระดับที่ฝุ่นเข้าได้แต่จะไม่สร้างความเสียหาย และสามารถจมน้ำลึกได้ 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที

IP Ratings ที่เจอบ่อยๆ

สรุปมาให้แล้วกับ IP Ratings ที่มักจะเจอบ่อยๆ

  1. IP54: ป้องกันฝุ่นในระดับที่ฝุ่นเข้าได้แต่จะไม่สร้างความเสียหาย และ ป้องกันน้ำกระเซ็นจากทุกมุม หมดห่วงเมื่อเจอน้ำหกใส่ หรือใส่ออกกำลังกาย แต่ไม่ควรเอาไปลุยฝนหรือว่ายน้ำ
  2. IP57: ป้องกันฝุ่นในระดับที่ฝุ่นเข้าได้แต่จะไม่สร้างความเสียหาย และ สามารถจมน้ำลึกได้ 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที หมดห่วงเมื่อเจอฝนตกได้เลย
  3. IP65: ป้องกันฝุ่นได้ 100% และ ป้องกันการโดนน้ำฉีดใส่
  4. IP67: ป้องกันฝุ่นได้ 100% และ สามารถจมน้ำลึกได้ 1 เมตรเป็นเวลา 30 นาที
  5. IP68: ป้องกันฝุ่นได้ 100% และ สามารถจมน้ำลึกได้มากกว่า 1 เมตรตามความลึกและระยะเวลาที่กำหนด สำหรับระดับการกันน้ำและเวลาจะต้องอ่านในสเปคของแต่ละชิ้นว่าตอนทดสอบนั้นทดสอบด้วยเงื่อนไขอย่างไรครับ

เลขมากกว่าไมไ่ด้หมายความว่าดีกว่า

เป็นอีกเรื่องที่มีความเข้าใจผิดกันเยอะว่าเลขมากหมายความว่ายิ่งดีกว่า โดยเฉพาะการกันน้ำที่จะเห็นว่ามีการแยกเป็น 2 รูปแบบ คือ การกันน้ำฉีดส่ และ การจมน้ำ อุปกณ์ที่กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7 สามารถปล่อยให้จมน้ำได้ถึง 1 เมตร แต่ไม่มีการรับประกันว่าหากเจอน้ำฉีดใส่จะสามารถป้องกันได้ครับ

อีกกรณีคือ IPX1 และ IPX2 ที่มีความสามารถในการกันน้ำที่ใกล้เคียงกันมากๆ ต่างกันเพียงองศาของน้ำเท่านั้น

เราเลยจะเห็นบางยี่ห้อที่จะต้องทดสอบ IP Ratings หลายๆ ค่า เพื่อให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน เช่น มือถือ Sony Xperia 1 V เป็นมือถือที่กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP65 และ IP67 ก็คือต้องทดสอบแยกกันระหว่างการจมน้ำและการโดนน้ำฉีดใส่นั่นเอง

กันน้ำแต่ไม่ถูกกับน้ำเค็ม

ในการทดสอบการกันน้ำจะทดสอบกับน้ำจืดเท่านั้น แต่หลายคนนำไปใช้งานในน้ำเค็มที่มีคุณสมบัติต่างจากน้ำจืด นอกจากนั้นหากน้ำเค็มหลุดรอดเข้าไปในตัวเครื่องได้ จะสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนภายในได้มากกว่าน้ำจืดอีกด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงครับ

จำไว้เสมอว่าการป้องกันเสื่อมได้ตามกาลเวลา

แม้อุปกรณืของเราจะมีมาตรฐานการกันน้ำที่สุดยอดเพียงได้ แต่สิ่งที่เราต้องรู้ไว้คือการกันน้ำของอุปกรณ์ต่างๆ นั้นลดลงตามกาลเวลาและการใช้งาน แม้จะมีมาตรฐานการกันน้ำก็ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง ไม่ควรนำไปเจอน้ำบ่อยๆ

และนี่คือทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP Ratings ครับ