นึกย้อนไปหามือถือที่ใช้กล้องคู่และเป็นที่รู้จักคงเป็น HTC One M8 ต่อมาก็เป็นกลุ่มแบรนด์จีนที่เริ่มลองรุกตลาดนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าแบรนด์ไทยอย่าง i-mobile IQ Z Pro ก็หันมาทำรุ่นกล้องคู่ด้วย
สเป็กของ i-mobile IQ Z Pro
- ซีพียู Snapdragon 615
- แรม 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว Full HD, Amoled
- กล้องหลัง แบบกล้องคู่ 13 และ 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
- แบตเตอรี่ 3500 mAh
i-mobile IQ Z Pro เปิดตัวด้วยราคา 11,900 บาท ที่เมื่อเทียบกับรูปร่างหน้าตาแล้วก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การออกแบบตัวเครื่องถ้ามองผ่านๆ ก็เหมือน iPhone มากๆ วัสดุก็ตามมาตรฐานทั่วไปของมือถือยุคนี้
อีกส่วนที่ชอบก็คือตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างเบา และให้ความรู้สึกในการหยิบจับที่ค่อนข้างดี ส่วนการจัดเรียงปุ่มปรับเสียงและพาวเวอร์ไว้ด้านขวาทั้งหมด เป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะสามารถวางตัวเครื่องตั้งกับพื้นเพื่อถ่ายรูปได้โดยไม่โดนปุ่ม และความสวยงามอีกอย่างก็คือไฟ LED แจ้งเตือนถูกฝั่งอยู่ใต้ปุ่มพาวเวอร์
ฝาหลังเงาพอที่จะสะท้อนใบหน้าได้แต่ก็ไม่เงาเป็นกระจกเหมือน Xperia Z5 Premium และที่สำคัญคือเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายครับ และตามสไตล์ของ i-mobile ก็คือทุกอย่างต้องพร้อมใช้ ดังนั้นในกล่องก็จะมีฟิล์ม เคส รวมถึงสายต่อขยายสำหรับดูทีวีด้วย
ความเตรียมพร้อมสำหรับมือใหม่นี่แหละที่ทำให้ software มีพวกแอพที่ไม่จำเป็นติดมาด้วย หรือที่เมืองนอกเค้าเรียกว่า bloatware ซึ่งมันใช้จริงไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่ก็ลบทิ้ง
ด้านของ UI/UX ยังคงเหมือน i-mobile รุ่นอื่นๆ คือผสมผสานระหว่าง rom หลายๆ แบบ โดยใช้หน้าจอ setting คล้ายกับ Meizu และใช้ icon แบบ Android เดิมๆ แต่ที่แปลกหน่อยก็คือ 3 ปุ่มล่างที่อยู่บนหน้าจอ แต่เรียงจาก recent apps, home, back ซึ่งมันสลับด้านกับมาตรฐาน Android ที่ใช้บน Nexus
แต่ที่ทำเอาผมปลื้มก็เพราะเราสามารถสลับการจัดเรียง 3 ปุ่มนี้ให้เป็นแบบมาตรฐานได้ด้วยการเข้าไปที่ Accessibility > Navigation Bar และ i-mobile IQ Z Pro เป็น Android 5.1.1 ซึ่งเปิดมาวันแรกก็มีแจ้งเตือนให้อัพเดททันที
ในส่วนของ recent apps มีการปรับแต่งเล็กน้อยด้วยการเพิ่มปุ่ม clear all เพื่อความสบายใจของคนที่ชอบนั่งปิดแอพ
เรื่องที่หลายคนเป็นห่วงก็คือ software ว่าจะมีปัญหารึเปล่า ซึ่งจากการทดสอบใช้งานทั่วไป ก็ยังไม่เจอปัญหาร้ายแรงอะไร จะมีก็แค่การกดเมนูย้ำๆ ในหน้า setting แล้วมันแสดงผลผิดเพี้ยน
ส่วนเรื่องของความเร็วและความร้อน ก็ทดสอบด้วยเกมแพะบ้า Goat Simulator MMO ด้วยการเล่นต่อเนื่องราวๆ 20 นาที ก็ไม่พบอาการกระตุกใดๆ ส่วนของบริเวณกล้องก็อุ่นขึ้นมาเล็กน้อย …เล็กน้อยจริงๆ เมื่อเทียบกับมือถือเรือธงปี 2015
มาถึงเรื่องของกล้องที่มีจุดเด่นเรื่องกล้องคู่ ก็ทำยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร หรืออาจต้องบอกว่าผมตั้งความหวังไว้สูงเกินไป เนื่องจากเคยใช้ HTC One M8 มาก่อน แต่ถ้าเทียบกับมือถือที่ราคาใกล้เคียงกันก็ถือว่าไม่แย่อะไร
ที่บอกว่าผิดหวังก็คือการจัดการกับ noise ในที่แสงน้อยยังทำได้ไม่ดีเท่าไร และตัวกล้องคู่ไม่ได้ทำงานตลอดเวลาเหมือน HTC One M8 แต่ต้องเลือกโหมดกล้องคู่ ซึ่งในโหมดกล้องคู่จะไม่สามารถใช้งานร่วมกับลูกเล่นอื่นๆ ของกล้องได้เลย
ซึ่งข้อดีของกล้องคู่บน i-mobile IQ Z Pro คือสามารถทำ effect หน้าชัด-หลังเบลอได้ง่าย ด้วยการกดถ่ายแช๊ะ! ตามปรกติ ไม่ต้องกะระยะเหมือน Samsung ไม่ต้องเลื่อนมือถือขึ้นลงเหมือน Google Camera เพราะแค่ถ่ายตามปรกติแล้วก็ไปกด edit หลังจากนั้นก็จะสามารถปรับเลือกจุดที่ต้องการโฟกัส และปรับระดับความเบลอได้
ส่วนกล้องโหมดปรกติก็มีสิ่งที่ i-mobile นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องคือ IQ Camera ก็คือโหมดซูมแล้วภาพไม่แตก กับ Chroma Flash ที่ยิงแฟลชแล้วสว่างทั้งภาพ ไม่เหมือนมือถือทั่วไปที่ยิงแฟลชแล้วฉากหลังจะมืด …หลักการมันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับรุ่นนี้ Chroma Flash แทบไม่ต่างจากการยิงแฟลชปรกติเลยครับท่าน
กล้องหน้านี่คงต้องบอกว่าไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบ selfie ด้วยหลายประเด็น …อย่างแรกเลยคือกล้องมันดูดแสงได้น้อยมาก ภาพค่อนข้างมืด แต่ยังดีที่มีแฟลชกล้องหน้าให้ใช้ ต่อมาก็คือมันยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งก็สว่าง บางครั้งก็ได้ผิวสีอมชมพู แต่ที่แน่ๆ คือมันเป็นกล้องหน้าสไตล์ฝรั่ง คือมันชัดและไม่บิ้วตี้ ดังนั้นริ้วรอยมาครบครับ
i-mobile IQ Z Pro เป็นอีกรุ่นที่มีดีพอที่จะซื้อมาใช้ แต่ก็ไม่ถึงกับโดดเด่นเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมีกล้องคู่ แต่ก็ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา หรือถ้าเปิดโหมดกล้องคู่ตลอดเวลาก็จะใช้งานลูกเล่นบางอันไม่ได้ แต่ผมก็ยังชอบเพราะความเป็นกล้องคู่ที่เอามา re-focus ได้ง่าย และส่วนที่ผมชอบเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้ก็คงเป็นเรื่องของการออกแบบตัวเครื่อง แม้ว่าจะไปละม้ายคล้ายค่ายอื่น แต่ก็มีงานประกอบที่ดูดี ให้สัมผัสการถือที่รู้สึกสบายมือ