HUAWEI FreeBuds Pro 3 หูฟังตัวเรือธงรุ่นใหม่จาก HUAWEI โดดเด่นทุกด้านไม่ว่าจะเรื่องเสียง การดีไซน์ ความฉลาด และระบบตัดเสียงรบกวนครับ สำหรับรุ่น 3 นี้มองเผินๆ อาจจะคล้ายคลึงกับรุ่นเก่า แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างในรายละเอียดเยอะครับ เยอะระับที่ว่าเคยใช้รุ่น 2 มาก่อนพอมาจับรุ่น 3 แล้วรู้สึกได้เลยครับ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
ด้านงานดีไซน์ดูเผินๆ อาจจะไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วต่างหลายจุด เริ่มจากจุดแรกคือการขาดหายไปของโลโก้ Diavalet ครับ เพราะรุ่นนี้ HUAWEI พัฒนาและปรับจูนเองทั้งหมดครับ
ตัวเคสหูฟังใช้วัสดุเป็น Nano Glass ที่ทนทานเรื่องรอยขีดข่วน และปรับปรุงด้านการดีไซน์โดยการปาดฝาให้เป็นมุมเฉียง และปรับกลไกแกนฝาพับให้ตัวฝาเทไปด้านหลังทำให้การหยิบหูฟังอออกมาจากเคสง่ายขึ้น
ตัวหูฟังกันน้ำกันฝุ่น IP54 สามารถใส่ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อ น้ำหนักของหูฟังที่เบาลง 5% ทำให้ใส่สบายหูกว่าเดิม และรุ่นนี้มีไซซ์หูฟังให้เลือกถึง 4 ไซซ์เลย เพิ่มไซซ์ XS เข้ามาสำหรับคนหูเล็ก
อีกจุดที่ปรับปรุงคือก้านหูฟังบริเวณที่เอาไว้สั่งงาน Gesture ได้ปรับให้ชัดเจนว่าเดิม ทำให้เวลาต้องคลำหาจุดสั่งงานเวลาใส่อยู่ง่ายขึ้นครับ
ด้านเสียง HUAWEI Freebuds 3 Pro ใช้ไดรเวอร์คู่ ประกอบด้วยไดรเวอร์ Dynamic ขนาด 11 มม. ประกบคู่กับไดร์เวอร์แบบ Planar Diaphragm เพื่อให้เสียงที่รายละเอียดครบถ้วนในทุกย่านเสียง ทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Kirin A2 ที่ HUAWEI พัฒนาเอง
ส่วน Bluetooth Codec ระดับ Hi-res รองรับทั้ง LDAC, L2HC 2.0 และ HWA ที่ HUAWEI พัฒนาเอง
เทคโนโลยีใหม่ที่ HUAWEI พัฒนาระบบเสียง triple adaptive EQ ปรับเสียงให้เหมาะสมกับสิ่งที่ฟังอัตโนมัติครับ โดยทำงานพร้อมกัน 3 ระบบ ดังนี้
- ปรับเสียงตามรูปทรงช่องหูอัตโนมัติ
- ปรับเสียงตามลักษณะการสวมใส่อัตโนมัติ
- ปรับเสียงตามระดับเสียงที่เปิดอัตโนมัติ
โดยทั้ง 3 ระบบจะทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา ไม่มีตั้งปิดเปิดครับ และตัวแอปเองสามารถปรับ Equalizer เองได้ด้วย
สำหรับด้านเสียงที่ไม่มี Devialet แล้ว ต้องบอกว่าคุณภาพเสียงที่ทำงานร่วมกับ Triple Adaptive EQ ยังเสียงดีเหมือนเดิม แต่แนวเสียงจะเปลี่ยนไป เสียงมีความโปร่งสบายมากขึ้น ส่วนตัวชอบปรับ EQ เพิ่มเสียงแหลมจะได้แนวเสียงแบบที่ชอบพอดีครับ
ด้านการคุยโทรศัพท์ HUAWEI Freebuds Pro 3 มาพร้อมไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว และมีไมโครโฟนแบบจับการสั่นของกระดูกอีก 1 ตัว ผสานเข้ากับเทคโนโลยี PureVoice 2.0 ซึ่งจะใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดเสียงรบกวน เพิ่มความชัดเจนของเสียงสนทนา โดยสามารถลดเสียง Background noise ได้ถึง 5 dB และตัดเสียงรบกวนจากลมได้ถึง 80% จากการใช้งานจริงต้องบอกว่าผลลัพธ์ประทับใจ จากที่ทดลองใช้คือได้ยินเสียงพูดชัดเจนและตัดเสียงสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระดับที่มีคนเดินมาคุยด้วยก็สามารถตัดเสียงออกให้ได้ครับ
สำหรับระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelation ( ANC ) อัปเกรดเป็นรุ่น 3.0 ที่รอบนี้เพิ่มฟีเจอร์สำคัญคือมีระบบตัดสเียงรบกวนแบบ Dynamic ที่จะปรับความเข้มของการตัดเสียงให้อัตโนมัติ ทำงานคู่กับระบบ AI ผลลัพธ์ที่ได้น่าประทับใจ สามารถตัดเสียงรบกวนได้เกือบหมดโดยจะเหลือเสียงย่านแหลมบางส่วน ถ้าเปิดเพลงด้วยก็จะกลบกันพอดี
อีกฟีเจอร์ที่ใช้บ่อยคือความสามารถในการเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 เครื่อง สามารถสลัเปลี่ยนได้อัตโนมัติ พร้อมตั้งค่าเลือกการเชื่อมต่อได้ง่ายๆ ผ่านแอป
สำหรับแบตเตอรี่ HUAWEI FreeBuds Pro 3 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 6.5 ชม. เมื่อชาร์จกับเคสสามารถใช้งานได้รวมกันสูงสุด 31 ชม. สามารถชาร์จไฟได้ทั้งมีสายและไร้สาย