รีวิว vivo T1 5G และ vivo T1x คู่หูสายเกมมิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนจาก vivo

vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ล่าสุด ซีรีส์ T เป็นซีรีส์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ครับ เรียกว่าเป็นฝั่งที่ vivo ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับรุ่นเปิดซีรีส์จะออกมาพร้อมกัน 2 รุ่นเลยครับ ได้แก่รุ่น vivo T1x และ vivo T1 5G แน่นอนว่าอยู่ในมือเราทั้ง 2 รุ่นแล้วครับ

vivo T1 5G รุ่นพี่ตัวแรง

เรามาเริ่มกันตัวที่ตัวแรงของซีรีส์นี้ก่อนอย่างเจ้า vivo T1 5G ครับ มาดูดีไซน์โดยรอบกันก่อน ดีไซน์ของรุ่นนี้ใช้อัตลักษณ์การดีไซน์ของ vivo แบบเห็นทีแรกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น vivo ครับ ด้านหลังมีกล้องและแป้นกล้องขนาดใหญ่ ใช้ฝาหลังแบบกระจกด้านที่นอกจากจะสวยงามและยังช่วยลดรอยนิ้วมืออีกด้วย

หน้าจอใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ HDR มีรีเฟรชเรทที่ 90Hz ครับ สามารถแสดงผลขอบเขตสี 100% DCI-P3 สีสันสวยงามแน่นอน ความสว่างสูงสุด 1,400 nits รองรับการชม Netflix ความละเอียด FHD

ประสบการณ์การเล่นเกม

อย่างที่บอกว่าตัวนี้เน้นเล่นเกม เลยใส่ชิปเซ็ตตัวแรงมา Qualcomm Snapdragon 778 5G เสริมด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber และระบบระบายความร้อน 8 ชั้น ซึ่งตัวนี้ vivo ชูจุดเด่นว่ามีพื้นที่ระบายความร้อนทั้งหมด 329.23 ตร.ซม. และเป็นเจ้าแรกในช่วงราคาเดียวกันที่มีขนาดแผ่นระบายความร้อนขนาด 209.7 ตร.ซม. ช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 12 องศา ให้แรมมา 8GB พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM 2.0 นำพื้นที่เก็บข้อมูลมาใช้งานเป็นแรมได้อีก 4 GB รวมเป็น 12 GB เลย และให้พื้นที่เก็บข้อมูลมา 128 GB เรียกว่าเป็นสเปคที่โอเคเลยสำหรับการเล่นเกมครับ ผลเทสต์ Antutu อยู่ที่ 541,332 คะแนน และ Geekbench Single-Core อยู่ที่ 789 ส่วน Multi-Core อยู่ที่ 2879

งานนี้เลยขอทดสอบด้วยการนำมาเล่นเกมจริง ซึ่งเกมที่จะเทสต์ก็คือ Call Of Duty Mobile ครับ ในการเล่นเกมจะมีโหมด Ultra Game Mode ช่วยให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมดีขึ้นอีก เช่น ล็อกความสว่างหน้าจอ ปิดการแจ้งเตือน บล็อกสายโทรเข้า เล่นเกมโดยปิดหน้าจอ เป็นต้น และยังสามารถเลือกการใช้พลังงานของเครื่องได้ด้วย ในกรณีที่อยากประหยัดแบตสามารถลดประสิทธิภาพเครื่องลงได้ แต่หากต้องการให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีโหมด eSport ให้เลือกด้วยครับ โหมดนี้จะทำการปรับแต่งการตั้งค่าเครื่องให้เป็นแบบเดียวกับที่นักกีฬา eSport ใช้เลยครับ

ด้วยสเปคของเครื่องทำให้ตัวเกมเลือกเปิดกราฟิกเกมเป็นสูงสุดให้เลย ส่วนเฟรมเรทปรับอยู่ระดับสูง ซึ่งต้องบอกว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ ยิ่งเทียบกับราคาแล้วสามารถเปิดกราฟิกได้ระดับนี้ถือว่าทำได้น่าประทับใจ

การเล่นเกมลื่นไหล ควบคุมความร้อนได้ดีเลยครับ โดยผมเลือกเล่นโหมดที่มี Map ใหญ่และผู้เล่นหลายคน ซึ่งเป็นโหมดที่จะต้องใช้ประสิทธิภาพเครื่องหนักกว่าโหมดทั่วไป แต่เจ้า vivo T1 5G ก็จัดการอยู่หมัดครับ ไม่มีอาการเครื่องร้อนจนประสิทธิภาพตกแต่อย่างใด แถมยังมีฟีเจอร์เด่นคือระบบสั่น 4D Vibration จากมอเตอร์แบบ Linear ประสิทธิภาพสูง ที่จะเพิ่มการสั่นเข้าไปในเกมด้วย เพิ่มความสมจริงในการเล่น โดยเครื่องจะสั่นเวลาเรายิงปืน หรือเวลามีคนหรือยานพาหนะเข้ามาใกล้ๆ ครับ

กล้องก็ไม่ธรรมดา ด้วยกล้องหลัก 64MP

ถึงจะเป็นรุ่นเน้นเกม แต่ vivo ก็ยังไม่ทิ้งชื่อเสียงฝั่งกล้อง ให้กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 พ่วงมากับกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดระดับ 4K ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ฟีเจอร์ต่างๆ ให้มาครบครันตามสไตล์ vivo ไม่ว่าจะเป็นโหมด Portrait ที่ทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ดีทีเดียว ตัดขอบแม่นยำ และมีโหมดเอฟเฟกต์แสงที่จะเพิ่มความสวยงามของภาพไปอีกขั้นครับ

และที่ชอบมากๆ ขอยกให้โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Dual view ที่จะถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน เอาไว้ถ่าย VLOG สไตล์ Reaction ดีมากๆ

ชาร์จเร็วถึง 66W

สำหรับพาร์ทแบตเตอรี่ vivo T1 5G ให้แบตเตอรี่ความจุ 4,700 mAh มาครับ พร้อมกับชาร์จเร็ว 66W เลยทีเดียว ชาร์จได้ 50% ในเวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น สายเกมน่าจะถูกใจเพราะเล่นเกมจนแบตใกล้หมดแล้วใช้เวลาเติมพลังไม่นานครับ ส่วนที่ชาร์จที่ให้มาในกล่องจะเป็นตัว 80W เลยครับ ตัวเดียวกับที่ให้มาใน vivo ตัวท็อปๆ เลย

สรุป vivo T1 5G ดีไหม เหมาะกับใคร

สมาร์ทโฟนสายเกมมิ่งตัวแรกจาก vivo ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจครับ สเปคทำออกมาได้สมดุล พร้อมระบบระบายความร้อนที่ประสิทธิภาพดี มีโหมด Ultra Game Mode ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเล่นเกม และที่ประทับใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นความเร็วในการชาร์จแบตที่ให้มาถึง 66W ครับ ใครหามือถือเล่นเกมประสิทธิภาพดี ตัวเครื่องบางเบา ตัวนี้จตอบโจทย์ครับ

vivo T1x รุ่นน้องตัวรองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

อีกรุ่นที่เปิดมาพร้อมกันคือ vivo T1x ครับ เป็นตัวน้องที่มาในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น การดีไซน์จะมีความคล้ายคลึงกัน ใช้ฝาหลังแบบกระจกด้านเหมือนกันครับ แต่รูปแบบโมดูลกล้องจะต่างกัน ตัวเครื่องหนาเพียง 8 มม. และมีน้ำหนัก 182 กรัม

ทางฝั่งหน้าจอเป็นหน้าจอชนิด IPS LCD ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แบบ incell ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz เหมือนรุ่นพี่

สำหรับประสิทธิภาพฝั่งเกม ตัวนี้จะใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 ซึ่งเป็นตัวแรงในฝั่งชิปเซ็ต 4G ครับ แรม 4GB พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM เพิ่มแรมอีก 1GB รวมเป็น 5GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB มีโหมด Ultra Game mode การสั่น 4 มิติ และโหมด E-Sport เหมือนรุ่นพี่ เสริมพลังด้วย Multi-Turbo 5.0 ระบบทำความเย็น 4 ด้าน ได้แก่ แผ่นทำความเย็นกราไฟท์ ฟอยล์ทองแดงการนำความร้อนสูง เจลนำความร้อน และระบบจัดการระบายความร้อนอัจฉริยะ ผลการเทสต์ Antutu ได้ 258,534 คะแนน ส่วน Geekbench ได้ Single-Core อยู่ที่ 389 และ Multi-Core 1,706 คะแนน

ทดสอบกับ Call Of Duty สามารถเปิดกราฟิกและเฟรมเรทระดับกลาง

พาร์ทกล้องใช้กล้องแบบ 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล + กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดความลึก 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลครับ สามารถซูมได้ 2 เท่าโดยไม่สูญเสียความละเอียด ส่วนประสิทธิภาพกล้องทำได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะการตัดขอบของภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอทำได้ดีสมกับเป็น vivo ครับ แบตเตอรี่ให้มา 5,000 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 18W แถมที่ชาร์จในกล่องครับ

vivo T1x ดีไหม เหมาะกับใคร

สำหรับตัวนี้เป็นตัวนี้เจาะสายเล่นเกมระดับเริ่มต้นครับ จุดเด่นอยู่ที่โหมด Ultra Game Mode ที่ฟีเจอร์ทัดเทียมรุ่นพี่เลย