กลับมาพบกับภาคต่อของสมาร์ทโฟน Vivo V ซีรีส์กันอีกครั้ง ในตอนนี้ V ซีรีส์ก็ได้มาถึงรุ่น V9 กันแล้ว โดยได้เพิ่มออปชั่นใหม่ๆ ตามเทรนด์เข้ามาด้วย อย่างเช่นหน้าจอ FullView ที่มาพร้อมกับรอยบากหรือที่เรียกกันติดปากว่า”ติ่ง” กล้องหลังที่ถูกอัปเกรดขึ้นมาเป็นกล้องคู่ และที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้คือมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานต่างๆ ด้วย
Specification
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 626
- RAM 4 GB
- Storage 64 GB
- แบตเตอรี่ 3,260 mAh
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 (พื้นฐานจาก Android 8.1)
- หน้าจอ IPS ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ความละเอียด FHD+ (1080×2280 พิกเซล)
- รองรับนาโนซิม 2 ซิมแบบ Dual Standby และช่องใส่ microSD การ์ดแยก 1 ช่อง
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล
- ระบบถ่ายภาพทำงานร่วมกับ AI AI Bokeh, AI HDR, AI Face Beauty, AI Scene Recognition และ AR Stickers
- ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า AI Face Access
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
นอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนที่จับกลุ่มลูกค้าที่ชอบการเซลฟี่แล้วยังเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคอเกมกับสิงห์นักบิดอีกด้วย
Display
สำหรับยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่ากระแสสมาร์ทโฟนที่ทำหน้าจอมีรอยบากหรือที่เรียกกันว่าติ่งนั้นกำลังมาแรงมาก และ Vivo เองก็ได้นำหน้าจอแบบนี้มาใช้กับรุ่น V9 ด้วย แต่เหมือนว่าตอนนี้ซอฟต์แวร์ยังไม่ได้ถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับหน้าจอแบบมีติ่งสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการใช้งานบางแอปพลิเคชั่นก็อาจมีการติดขัดอยู่บ้าง
สำหรับสีสันและความคมชัดก็ถือว่าโอเคเลยในระดับราคาหมื่นต้นๆ
Camera
ในส่วนของกล้องหลังรอบนี้มาพร้อมกับกล้องคู่ สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้แล้ว
สามารถนำมาปรับความเบลอได้ทีหลังในแอป Albums ได้
Overall
จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในราคาหมื่นต้นๆ ได้ระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย กล้องดีสมราคาทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เน้นในเรื่องเสียงเหมือนกับรุ่นก่อนๆ