ค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+Kค้นหา
CTRL+K
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวการส่งพัสดุไปต่างจังหวัดด้วย 7 Speed D ในปี 2023 เพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ที่ต้องการจะส่งพัสดุด้วย 7 Speed D นะคะ ก่อนอื่นเลยเราขอเท้าความก่อนว่า แม้ในเขตเราจะแวดล้อมไปด้วยขนส่งเจ้าใหญ่มากมาย แต่ด้วยความที่ขนส่งที่อยู่ในระยะการเดินสะดวกของเรานั้นมีเพียง 7-Eleven เท่านั้น เราจึงมักจะส่งพัสดุด้วย 7 Speed D เสมอ ๆ
ปกติที่เราเคยใช้บริการ ถ้าส่งพัสดุให้กับผู้รับในเขตกรุงเทพด้วยกันจะใช้เวลาเพียง 1 วันก็ถึงแล้ว อย่างล่าสุดเราส่งพัสดุตอนเที่ยงคืน ผู้รับได้รับตอน 10 โมงของอีกวัน เรียกได้ว่าก็แค่ 10 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น แต่ที่ได้ลองส่งพัสดุจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด (จังหวัดพิจิตร) ใช้ระยะเวลาจัดส่งถึง 7 วัน !!!! แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ เราไม่ได้มาเพื่อเขียนโจมตีแต่อย่างใดนะคะ เรามาเพื่อจะนำข้อมูลมาบอกทุกคนว่า ถ้าของส่งช้าอย่าเพิ่งตกใจ อย่าเพิ่งวีน เพราะพัสดุคุณอาจกำลังอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนถ่ายไปยังขนส่งย่อยเจ้าอื่น ๆ ที่เขาซัพกันอยู่ก็ได้ โดยข้อมูลนี้เราได้รับแจ้งมาจาก Call-Center ของ 7-Eleven นั่นเองค่ะ
ในการจัดส่งห้ามลืมบัตรประชาชนผู้ส่ง เบอร์โทรศัพท์ของผู้ส่งและผู้รับปลายทางเด็ดขาด !!! และโชคดีที่ 7-Eleven สาขาที่เราใช้บริการนั้นพนักงานขยัน แคล่วคล่อง บริการดี จึงได้รับ SMS ยืนยันพัสดุและลิงก์เพื่อทำการติดตามพัสดุอย่างรวดเร็ว โดยเราส่งพัสดุทั้งสิ้น 2 กล่อง เป็นไซซ์ M และไซซ์ L
ปกติแล้วสถานะการจัดส่งสินค้าจะอัปเดตไวมาก แต่รอบนี้สถานะดูเปลี่ยนช้าแปลก ๆ และอาจเพราะมันตรงกับวันที่ 8 เดือน 8 ซึ่งเป็นเทศกาลช็อปปิ้งอยู่แล้วเราจึงไม่ค่อยเอะใจเท่าไหร่ แต่รอแล้วรอเล่า สถานะก็ไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันที่ 9 นี่สิมันชักจะยังไง ๆ แล้ว อันดับแรกเลยเราจึงติดต่อสอบถามเรื่อง Speed D กับพนักงานเซเว่นที่สนิทกัน เพราะเรากลัวของหาย (เคยหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วมีคนโพสต์ไว้ว่าขนส่งเจ้านี้ทำพัสดุหาย เราก็ตื่นตกใจไปอีก) แต่พนักงานคนดังกล่าวก็รับประกันว่า มีเลขติดตาม ยังไงก็ไม่หายแน่นอนจ้า เราจึงค่อยคลายกังวลไป
รออีกวัน สถานะก็ยังไม่อัปเดตอีก จึงทำการโทรหา Speed D Call-Center 02-036-5788 (โทรได้ 24 ชั่วโมง) โดยจะมีการตรวจสอบชื่อผู้ส่ง และให้สะกดชื่อ-นามสกุลให้พนักงานฟัง ขั้นตอนนี้เข้าใจว่าเป็นการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการถูกแอบอ้าง เสร็จแล้วพนักงานก็จะรับเรื่อง และจะทำการติดต่อกลับในเวลาทำการ และเราก็ได้ติดต่อไปหลังไมค์เพจ 7-Eleven Thailand ด้วยเพื่อกันเหนียว ทีแรกคิดว่าต้องตอบช้าแน่ ๆ ปรากฎว่าตอบไวมาก !!
ในขณะที่เรากำลังกังวลสุด ๆ ญาติเราก็แชทมาหาตอน 1 ทุ่มกว่า ๆ ว่า ‘หนูส่ง J&T มาใช่ไหม พอดีว่า J&T โทรหาอา‘ เราจึงตอบกลับว่า เราส่งด้วย 7 Speed D ไป แต่ก็เคยอ่านเจอเหมือนกันว่า J&T เป็นซัพให้ ญาติเราจึงบอกว่า ‘ถ้าอย่างนั้นก็คงใช่ เพราะไม่มีอะไรมาส่งแล้ว‘ และประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อเช็คสถานะการจัดส่ง สถานะก็เปลี่ยนเป็นพัสดุถึงคลังปลายทางพอดี ตอนนั้นเริ่มใจชื้น คิดเอาไว้ว่าต้องใช่ ต้องใช่แน่ ๆ แต่อีกเลขหนึ่งยังไม่เปลี่ยนสถานะเลย ยังไงกันล่ะเนี่ย… คิด ๆๆๆๆ
วันต่อมา เวลาประมาณ 11:00 น. มีการติดต่อเราเข้ามาด้วยเบอร์โทรศัพท์ของ 24catalog 02-826-7936 แต่เราไม่ได้รับสาย และประมาณช่วงบ่าย ญาติเราก็วีดีโอคอลมาหาด้วยความดีใจว่า ได้รับพัสดุแล้ว ครบถ้วน 2 กล่อง แต่มาด้วยขนส่งคนละเจ้า กล่องหนึ่งมาด้วย J&T อีกกล่องมาด้วย Flash Express ทุกอย่างปกติดี และช่วง 18:00 น. ในวันเดียวกันนั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็ติดต่อเรามาถามไถ่เรื่องพัสดุ เราจึงแจ้งว่าผู้รับได้รับพัสดุแล้ว และมีการถามไถ่เรื่องระยะเวลาการจัดส่งที่ล่าช้า และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการขนส่งไป
โดยได้ข้อมูลว่า 7 Speed D มีการใช้บริการ J&T และ Flash Express เป็นซัพในการขนส่ง (จุดนี้ส่วนตัวเข้าใจว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละเขต แต่ละจังหวัด ซึ่งแต่ละที่จะมีการให้บริการแตกต่างกันไป) ส่วนพัสดุที่มีการอัปเดตสถานะล่าช้านั้น เป็นเพราะมีการเปลี่ยนรหัสการขนส่ง หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีการเปลี่ยนเลขพัสดุใหม่นั่นเอง จึงทำให้ไม่สามารถดูสถานะพัสดุด้วยเลขเดิมได้ จุดนี้เราขอเสนอแนะว่า ควรมีการอัปเดตเลขพัสดุใหม่ให้ในช่องทางการติดตามสถานะเดิมด้วย หากทำข้อนี้ได้ ก็จะลดความกังวลใจของผู้รับและผู้ส่งไปได้มาก
ทางเจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องเป็นอย่างดี และทุกอย่างก็จบลงด้วยดีนะ เพราะส่วนตัวค่อนข้างเชื่อมั่นในบริการของ 7-11 อยู่แล้ว และที่เคยใช้ในเขตกรุงเทพ ฯ ด้วยกันก็ไม่เคยมีปัญหา มีมาติดตรงส่งไปต่างจังหวัดครั้งนี้นี่แหละ และด้วยความที่เป็นปัญหาครั้งแรก และเราไม่อยากตีตนไปก่อนไข้ จึงทำการสอบถามทุกอย่างตามขั้นตอนเท่าที่เป็นไปได้ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทำการติดตามเรื่อง และติดต่อกลับอย่างเคร่งครัด จึงทำให้เรายังรู้สึกเชื่อมั่นในการให้บริการของ 7-11 อยู่เช่นเดิม
ในที่สุด 7 วันของเราก็จบลงด้วยดี และเราก็ต้องไปอัปเดตให้เหล่าพี่ ๆ น้อง ๆ ใน 7-Eleven สาขาประจำแถวบ้านฟังตามระเบียบ และเท่าที่ดู เหมือนพี่ ๆ เขาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า Speed D มีการเปลี่ยนถ่ายขนส่งกลางคันด้วย อาจเพราะดูแลคนละส่วนกันล่ะมั้ง เราก็เล่าเพื่อเป็นข้อมูล เผื่อในอนาคตมีผู้ใช้บริการมาสอบถามหรือเจอเหตุการณ์ประมาณนี้อีกก็จะได้ตอบลูกค้าได้
ส่วนเรื่องค่าส่ง ปัจจุบันคิดตามขนาดกล่อง ไม่ได้คิดตามน้ำหนักพัสดุ จึงทำให้ราคาส่งรอบนี้ของเราอยู่ที่ 55 บาทของ M และ 65 บาทของ L ค่ะ คุ้น ๆ ว่าประมาณ 3-4 ปีก่อน เราใช้ขนส่ง 7 Speed D นี่แหละ ตอนนั้นค่าส่งแพงหูดับมาก จำได้ว่า L นี่ กล่องละ 130+ เลย ปัจจุบันนี้ถือว่าราคาเบา ๆ ไปเลยค่ะ
เสริมอีกนิดหนึ่งว่า ระหว่างนั้นญาติเราก็ส่งพัสดุมาให้เหมือนกันโดยไปรษณีย์ไทย จากพิจิตรถึงกรุงเทพใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น แต่ญาติเราส่งตั้งแต่ช่วง 8:00 น. แต่จวนจะ 17:00 น. แล้วก็ยังไม่เข้าระบบ เราจึงโทรถามไปรษณีย์ไทย สาขาดังกล่าว จึงได้ความว่า ‘ระบบไม่สเถียร จึงคีย์แล้วแต่ยังไม่เข้าระบบ แต่จัดส่งวันนี้แน่นอนจ้า’
เราจึงมีคำแนะนำให้ทุกคนจากการส่งพัสดุจากประสบการณ์ส่วนตัวในครั้งนี้ว่า จริง ๆ ทุกขนส่งไม่ได้แย่นะ แต่ละขนส่งอาจใช้เวลาพอ ๆ กันหากอยู่ในเขตการให้บริการหลักของเขา ทุกขนส่งก็จะมีความโดดเด่นในแต่ละเขตพื้นที่ต่างกัน เราอาจถามผู้รับปลายทางของเราก่อนก็ได้ค่ะว่าแถวนั้นขนส่งอะไรที่มีสาขาเยอะ ๆ หรือขนส่งไหนที่ปัญหาน้อยและส่งไว พอทราบข้อมูลปุ๊บว่าควรจะเป็นขนส่งใด เราในฐานะผู้ส่งก็เลือกใช้ตามความเหมาะสม ติดขัดตรงไหนให้ติดต่อ Call Center ทันที ให้เขาช่วยโทรตาม ถ้าแบบนี้จะไว แล้วก็อย่าลืมรอรับสายเผื่อเขาติดต่อกลับ อันนี้แนะนำจากประสบการณ์ตรงที่ติดต่อ Call Center มาแล้วทุกขนส่ง และเราไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่ละเลยเลยนะ แต่ละขนส่งเจ้าหน้าที่จะตามให้โหดมาก โดยเฉพาะ Shopee Express !!!!
ส่วนตัวเรายังใช้ Speed D เหมือนเดิม เพราะส่งให้กรุงเทพด้วยกันไวมาก และค่าส่งถูก ส่วนขนส่งเจ้าอื่น ๆ เราก็ยังประทับใจ และเลือกใช้ตามความเหมาะสมค่ะ อย่างแถวบ้านเรา Speed D, Kerry, J&T, Shopee Express, ไปรษณีย์ไทย เป็นขนส่งที่รวดเร็ว ยังไงทุกคนก็ลองทำความเข้าใจกับเขตตัวเองกันนะคะว่ามีขนส่งเจ้าไหนให้บริการเยอะและได้รับรวดเร็ว เพื่อความสุขใจทั้งผู้ให้บริการ ผู้ส่ง และผู้รับค่ะ
