หลังจากบทความแรก เราได้แนะนำแบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์ดังที่ขายใน Shopee EP.1 ไปแล้ว วันนี้เราจะมาต่อ EP.2 กับ รวมเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่ขายใน Shopee Mall คัดมาแล้วว่าคุ้ม ปัง คุณภาพเริ่ด! ไม่ต้องรอช้า มาดูกันต่อเลยจ้า
JUNGSAEMMOOL
JUNGSAEMMOOL แบรนด์เครื่องสำอางที่โด่งดังมาก ๆ ในประเทศเกาหลี เพราะก่อตั้งโดยเมคอัพอาร์ทิสชื่อดังอย่างคุณ จอง แซม มุล โดยเครื่องสำอางจากแบรนด์นี้มักจะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติของการแต่งหน้า เน้นงานผิว และการบำรุง สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวดังจาก JUNGSAEMMOOL นั้นคือคุชชั่น JUNGSAEMMOOL Skin Nuder Cover Layer Cushion ของเขานั่นเองค่ะ
ที่เครื่องสำอางจาก JUNGSAEMMOOL ฮิตในหมู่สาว ๆ นั่นก็เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าทุกครั้งที่เราดูซีรีส์เกาหลี เราอยากจะมีผิวดี ๆ เนียน ละเอียด น่าสัมผัสเหมือนกับผิวหน้าของนางเอก ฉะนั้นเมื่อแบรนด์ JUNGSAEMMOOL ชูจุดแข็งในเรื่องของงานผิวแบบสาวเกาหลีแบบนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว !
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ JUNGSEAMMOOL
Catrice
Catrice แบรนด์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ราคาถูกและคุณภาพดีงามค่ะ แต่ถึงจะราคาถูก แต่พิกเมนต์สีเขาแน่นมากนะคะ ไอเทมขึ้นชื่อของเขาก็คืออายชาโดว์ค่ะ สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่หน้าร้าน Watsons หรือ Watsons Official
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของยี่ห้อนี้เท่าที่เราเคยใช้มาคือคุ้มค่ามากค่ะ ที่จำได้จะมีอายชาโดว์แบบตลับ 1 สีที่เราซื้อใช้สมัยมัธยม เป็นสีที่เข้ากับเรามาก ๆ ชื่อสี Papaya อะไรสักอย่าง จะออกโทนเมล่อน ๆ นม ๆ หน่อย คือดีมาก แล้วก็ติดทนนะ สมัยนั้นไม่รู้จักหรอกการลงเบสก่อนลงอายชาโดว์อะไรนั่น เราก็ใช้จนเกลี้ยง หาใหม่ยังไงก็หาไม่ได้ค่ะ
ส่วนตัวไม่เคยผิดหวังกับแบรนด์นี้นะ แพ็คเกจ คุณภาพอะไรเขาก็ดี ซื้อมาใช้แล้วก็รู้สึกว่าคุ้มค่า สมราคาค่ะ ปัจจุบันเขาก็มีเครื่องสำอางให้เลือกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่รองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งพับ เมคอัพสเปรย์ ไพร์เมอร์ บลัชออน คอนทัวร์ เฉดดิ้ง ฯลฯ แล้วแต่ละชิ้นก็ราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้นเอง คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ Watsons Official
essence
essence เป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่อยู่ยงมาอย่างยาวนาน ที่เรามองว่าเหมาะกับวัยรุ่น วัยมัธยมมากค่ะ ด้วยดีไซน์ ความหลากหลาย ความคุ้มค่า และราคา หารเฉลี่ยออกมาแล้วเรามองว่าเป็นราคาและคุณภาพที่น้อง ๆ สามารถจ่ายไหว และด้วยพิกเมนต์ที่ไม่แน่นมากจนเกินไป จึงทำให้แต่งออกมาแล้วค่อนข้างดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผิวหน้าใส ๆ ของวัยทีนค่ะ หรือสำหรับใครที่มีงบไม่เยอะมาก เราก็มองว่า essence นี่เป็นแบรนด์ที่น่าสนใจนะ
สิ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ essence คืออายชาโดว์และสีทาเล็บ โดดเด่นด้วยสีสันที่หลากหลาย พร้อมทั้งแพ็คเกจที่ดูน่ารักน่าใช้ น่าพกพาไปไหนมาไหน จึงทำให้ essence ครองใจวัยทีนและสาว ๆ วัยทำงานไปได้ไม่ยากเลยค่ะ
สิ่งที่เราชอบที่สุดของแบรนด์นี้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เครื่องสำอาง แต่เป็นบรรดาแปรงแต่งหน้าของเขาค่ะ !!! ราคาถูก คุณภาพเริ่ด ใช้มานานมาก ล้างบ่อยด้ามก็ไม่กรอบ ไม่แตก หัวแปรงไม่บาน (ถ้ารักษาดี ๆ)
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่หน้าร้าน Watsons หรือเว็บไซต์ของเขา essencethailand.com
Wet N Wild
สำหรับ Wet N Wild เมื่อพูดถึงชื่อของแบรนด์นี้ สิ่งที่นึกถึงเป็นอย่างแรกก็คือลิปสติกและอายชาโดว์ค่ะ แบรนด์นี้เขายืนหนึ่งทางด้านนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เราสนุกกับการหาข้อมูลว่าเครื่องสำอางตัวไหนที่มันสามารถ Dupe สีกับเครื่องสำอางแพง ๆ จากเคาท์เตอร์แบรนด์ได้บ้าง ก็ได้ข้อมูลว่าคือยี่ห้อนี้แหละ แล้วด้วยงบตอนนั้นยังเบี้ยน้อยหอยน้อย เลยลองซื้อใช้ดู ปรากฎว่าว้าวมาก ลิปสติกโทนสีสุภาพ ติดทนดี ผสมกันก็สวย มันแบบ… ใช่
หลังจากวันนั้นเราเลยไว้ใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จาก Wet N Wild ต่อไปอีก อย่าอายชาโดว์นี่ก็คือ โหดค่ะ สีเข้มสะใจมาก โดยเฉพาะพวกโทนสีดาร์ก ๆ นี่อย่าไปล้อเล่น แต่งสวยติดทนจริงจัง แนะนำว่าถ้าใครมีงานโรงเรียน หรือชอบไปปาร์ตี้ แล้วอยากได้อายชาโดว์เริ่ด ๆ สีเชิ่ดสู้แสง แนะนำว่าให้ใช้ Wet N Wild ค่ะ เลอค่า !!!!!
อ้อ และบลัชออนของเขาก็เป็นที่นิยมอีกเช่นเดียวกัน ด้วยโทนสีที่หลากหลาย ใช้ง่าย และติดทนนาน และส่วนหนึ่งบลัชออนของเจาคนมักจะเอาไป Dupe กับเคาท์เตอร์แบรนด์อย่างของ Nars และ Mac ส่วนตัวเราไม่อยากฟันธงค่ะว่าดีสู้กันได้ไหมหากคุณคิดจะใช้แบบ Dupe กัน เพราะเครื่องสำอางแพงก็มีเหตุผลของเขาและมันก็ดีงามสมค่าตัวเขาจริง ๆ นะคะจากที่ใช้มา แต่สำหรับ Wet N Wild ถึงแม้จะราคาถูก แต่เรากล้าพูดเลยว่าคุณภาพเขาพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วค่ะว่าถ้าของคุณดีจริงยังไงก็อยู่ในใจคน
ใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่หน้าร้าน Watsons หรือ Watsons Official หรือที่เว็บไซต์ของเขา wetnwildthailand.com
In2it
In2it สำหรับยี่ห้อนี้ยังคงเป็นยี่ห้อที่เราใช้อยู่จนถึงปัจจุบันเลยนะคะ ที่เราติดใจเขาก็คือดินสอเขียนขอบตา อายไลน์เนอร์ และดินสอเขียนคิ้วนั่นเองค่ะ เพราะว่าติดทน เส้นสวยคมชัด เขียนง่าย เนื้อไม่แห้ง ซื้อทีก็คือซื้อตุนเลยค่ะ ถ้าช่วงไหนเจอโปรก็กำไรไป แต่ช่วงไหนไม่โปรก็ซื้ออยู่ดี
กับอีกชิ้นหนึ่งที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ นั่นก็คือไพร์เมอร์แบบซิลิโคนของเขาค่ะ อันนี้เราตุนไว้ประมาณ 4 หลอดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็ใช้ไปครึ่งต่อครึ่งจากที่สต๊อกไว้แล้ว และก็มีขยับไปใช้ยี่ห้ออื่นบ้าง แต่ตัวนี้ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจในวันที่ไม่คิดอะไรมากแต่ก็อยากได้ผิวเรียบเนียน
ปกติแล้วเราเป็นคนที่ผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง ดังนั้นไพร์เมอร์เบา ๆ แบบชาวบ้านเขาอาจต้องพักไปก่อน เพราะในการแต่งหน้ายังไงเราก็ต้องการผิวเป๊ะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราก็เลยหาข้อมูลว่ามีไพร์เมอร์แบบซิลิโคนจากยี่ห้ออะไรที่เราเชื่อใจบ้างนะ ? ดูไปดูมาก็มาลงตัวที่ยี่ห้อนี้ที่เราไว้ใจอยู่แล้วนั่นเอง in2it
ตอนนี้เขามีไลน์เครื่องสำอางสำหรับผู้ชายด้วยนะ สนับสนุนมาก ๆ หมดปัญหาเลือกเครื่องสำอางยากสำหรับ Masculine เลย
ใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่หน้าร้าน Watsons หรือ In2it Official หรือที่เว็บไซต์ของเขา in2itcosmetics.com
City Color
City Color เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราเจอโดยบังเอิญตอนไปช็อปค่ะ เป็นอายชาโดว์ ตอนนั้นเราหยิบมาแบบไม่คิดอะไรมาก ด้วยสีที่ถูกใจ แพ็คเกจดูดี และราคาน่ารัก จึงไม่ได้คิดหรือคาดหวังอะไรเยอะ ตอนนั้นซื้ออีกยี่ห้อที่ราคาใกล้เคียงกันมาด้วย แต่เทสต์ดูแล้วก็ไม่ค่อยถูกใจ เลยไม่คิดว่ายี่ห้อนี้จะต่างกันนัก จนกระทั่งได้ลองใช้ ปาดครั้งเดียวว้าวมาก !!! พิกเมนต์สีแน่น และสีที่เป็นกลิตเตอร์ก็คือแวววาวดีมาก ตอนนั้นเราตกใจมาก ถึงกับต้องมานั่งดูชื่อยี่ห้ออีกครั้งเลย
และแบรนด์นี้ก็โดดเด่นในเรื่องอายชาโดว์สมกับคุณภาพของเขาจริง ๆ นั่นแหละ อย่างพวกบรอนเซอร์ หรือบลัชออนใด ๆ ของเขานี่ก็ขายดิบขายดี เห็นว่าลิปสติกก็ได้รับความนิยมด้วยนะ เอาจริงยี่ห้อนี้ทำให้เราเปลี่ยนความคิดจากคำว่า ดีงามสมราคา เป็น ดีงามเกินราคา
สำหรับใครที่สนใจ สามารถวาร์ปไปตำได้ที่หน้าร้าน Beautrium หรือ thebeautrium.com
Canmake
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราเชียร์มาก ๆ และยังใช้อยู่ ณ ปัจจุบันนี้สำหรับ Canmake โดยเขาเป็นแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติญี่ปุ่น ที่เครื่องสำอางของเขาคือคุณภาพดีงาม ราคาสบายกระเป๋า ให้ลุคส์ที่เป็นธรรมชาติ ดูสบายตาน่ามองนาน ๆ แบบสาวญี่ปุ่น
สำหรับแบรนด์ Canmake นั้นจะโดดเด่นในเรื่องบลัชออน กันแดดเนื้อเจลและอายชาโดว์ค่ะ ที่เราใช้อยู่ก็คือบลัชออนสีใหม่ล่าสุดของเขา Fleur เราถูกใจเพราะว่าด้วยสีผิวของเรานั้นเป็นโทนเย็น จึงเหมาะกับบลัชออนที่สีออกม่วง ๆ ชมพู ๆ สว่าง ๆ เพราะใช้แล้วจะยิ่งขับผิว ดังนั้นเราจึงรีบสอยสีนี้มาแบบไม่ต้องคิดให้มากความ
และจริง ๆ เครื่องสำอางของเขาก็มีหลากหลายนะคะ ทั้งตลับเขียนคิ้ว ลิปสติก อายชาโดว์ ดินสอเขียนคิ้ว และอื่น ๆ
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ Canmake Official และ canmake.com
Beauty Cottage
คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก สำหรับ Beauty Cottage ด้วยภาพลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น ที่แค่เห็นก็รู้สึกได้ถึงความสวยหรู อีกทั้งเครื่องสำอางเขาก็มีให้เลือกเยอะมาก โดยแบรนด์นี้จะโดดเด่นในด้านลิปสติกและน้ำหอม
แต่ถ้าเขามีดีแค่แพคเกจสวยก็คงไม่ครองใจสาว ๆ มาอย่างยาวนานขนาดนี้ แต่เพราะเขามาด้วยราคาที่ดีงาม เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งทำให้ภาพรวมของ Beauty Cottage เป็นเครื่องสำอางที่คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย จึงทำให้แบรนด์นี้ครองใจสาว ๆ มาอย่างยาวนาน
สำหรับใครที่สนใจ สามารถวาร์ปไปตำได้ที่ Beauty Cottage
Eglips
แบรนด์นี้ก็น่ารัก ดีงาม น่าใช้ คบหาได้จ้า สำหรับ Eglips แบรนด์นี้เขาชูจุดเด่นในเรื่องงานผิว เก็บริ้วรอยจุดด่างดำ แน่นอนว่าไอเทมขายดีของเขาก็คือแป้งพับ Eglips Blur Powder Pact หรือแป้งเบลอรูขุมขน ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง
แล้วก็เฉดดิ้งกับบลัชออนของเขาหมดเร็วมาก เรากดใส่รถเข็นค้างไว้ไม่กี่ชั่วโมง กลับมาอีกที ไม่ทันค่ะ จึงเป็นบทเรียนเลยว่า สำหรับแบรนด์นี้ รีบซื้อรีบจ่ายจ้า ของเขาแรงจริง ๆ
Eglips ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ได้มาตรฐาน และราคาไม่แรง เครื่องสำอางของเขาโดยรวมจะเน้นงานผิวแมทต์ และความเป็นธรรมชาติ ฉะนั้นเราจึงจะสังเกตุได้ว่าเครื่องสำอางของแบรนด์นี้จะค่อนข้างให้ Finish Look ที่ดูแมทต์ สวยสดใส สบาย ๆ
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ EGLIPS Official Store
4U2
4U2 เชื่อมาก ๆ สาว ๆ กว่า 80% ต้องมีลิปสติกยี่ห้อนี้ติดบ้าน ด้วยราคาน่ารักน่าคบหา และคุณภาพสินค้าดีงาม เนื้อแน่น ติดทน ทำให้หลาย ๆ คนอดใจไม่ไหวที่จะหลงรัก ! และแน่นอนว่าเราก็เป็นอีกหนึ่งในคนที่ชื่นชอบเครื่องสำอางของแบรนด์นี้ค่ะ ส่วนตัวเราเคยใช้หลายตัวอยู่ ไม่มีตัวไหนที่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ กับคุณภาพสินค้านะคะ ใช้ได้ชิว ๆ สบาย ๆ ดีงามสมราคาค่ะ
นอกจากนี้เขายังสามารถหาซื้อได้ง่าย และยังจัดโปรอยู่บ่อย ๆ ส่วนตัวเราชอบการจับคู่สีผลิตภัณฑ์ของเขานะ เพราะมันดูมีความ Aesthetic ดี ผลิตภัณฑ์ของเขาก็มีให้หลากหลาย มีตั้งแต่รองพื้น แป้ง บลัชออน อายไลน์เนอร์ มาสค่าร่า เรียกได้ว่า สวยครบ จบในแบรนด์เดียว แถมราคายังไม่กระเป๋าฉีกอีกด้วย แนะนำมาก ๆ สำหรับน้อง ๆ วัยมัธยมที่ชอบเครื่องสำอางน่ารัก ติดทน สีสันชัดเจน
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ 4U2 Cosmetics
xoxo
xoxo แวบแรกของแบรนด์นี้คือการดึงดูดใจเราด้วยแพ็คเกจแสนน่ารัก ไอเทมที่โดดเด่นของแบรนด์นี้คือลิปสติกต่าง ๆ ค่ะ (แน่ล่ะ เพราะชื่อแบรนด์ก็บอกอยู่ว่า จุ๊บ จุ๊บ) ส่วนตัวเราโดนตกจากแบรนด์นี้ด้วยลิปสติกสีสุภาพแท่งจิ๋ว รุ่น Mini Make Me melt Matte พกพาสะดวก ปุ๊ปปิ๊กน่ารัก ทาได้ง่ายเพราะรูปทรงลิปสติกไม่ใหญ่ ทำให้เข้ากับรูปปากได้เป็นอย่างดี
จะว่าไปลิปจุ่มของเขาเห็นว่าขายดี ลิปไลน์เนอร์ก็เหมือนกัน เรายังไม่เคยลอง แต่จากที่เราเคยใช้พวกลิปสติกของเขาและเห็น Feedback จากแต่ละคนแล้วก็ถือว่าแบรนด์นี้เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ไว้ใจได้ค่ะ ส่วนเรื่องความติดทนก็ประมาณหนึ่งค่ะ จะต้องมีไปเติมบ้าง แต่ถ้าทากับทินท์ก็น่าจะเข้ากันดีเลย เนื้อลิปดขานี่ก็จะลื่น ๆ หน่อย
สำหรับใครที่สนใจสามารถวาร์ปไปตำได้ที่ Watsons Official
Mille
สำหรับ Mille ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราสามารถไว้ใจในคุณภาพได้แบบไม่มีข้อกังขา โดย Mille จะเด่นในเรื่องแป้งและ BB ครีม แต่ที่มาปังในหมู่สาว ๆ ทั่วบ้านทั่วเมืองจริง ๆ คือจากดินสอเขียนคิ้วหัวตัด 99 บาทในตำนาน ที่ขึ้นราคาเป็น 109 บาท มาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย …ให้คุณภาพมันขายตัวเอง ให้มันเป็นตำนานสืบไป
ส่วนตัวประทับใจที่เขียนคิ้วของเขามากจนตุนทีหลายแท่ง สรุปใช้ไม่ทัน เพิ่งแจกเพื่อนไปเมื่อปีก่อนนี่เองค่ะ และ BB ครีมของเขาก็โอเคเลยค่ะ ไม่เยิ้ม ไม่ลอย ให้ความหอมแบบลูกคุณหนู แพคเกจของเขาจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคุณหนูเกาหลี หวาน ๆ ยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ยังไงยังงั้น
ลิปจิ้มจุ่ม ส่วนตัวเคยใช้ ความรู้สึกส่วนตัวเราจะไม่ค่อยชอบฟินิชลุคส์ของเขาเท่าไหร่ค่ะ มันจะดูหนา ๆ แป้ง ๆ นิดนึง ยิ่งถ้าปากย่นก็จะเป็นรอยย่นชัด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ เพราะหลาย ๆ คนก็ใช้ได้ ใช้ดี ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
รวม ๆ Mille เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราชอบ และไว้วางใจที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาอยู่ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแต่งหน้าแบบปกปิดแต่ก็บำรุงไปในตัว สีสันของเขาจะค่อนข้างชัดเจน ไม่ได้บางเบา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหนักหน้าแต่อย่างใด
สำหรับใครที่สนใจ สามารถวาร์ปไปตำได้ที่ Mille Official Shop
Cathy Doll
จะใช้คำว่าเราโตมากับแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับ Cathy Doll เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่แทบจะไม่เคยได้ยินรีวิวในด้านลบเลย และส่วนตัวก็ค่อนข้างเชื่อถือในคุณภาพของผลิตภัณฑ์นะคะ โดยไอเทมที่ขายดีที่สุดสำหรับแบรนด์ในตอนนี้จะเป็นครีมกันแดดกับที่เขียนคิ้วค่ะ
โดยเราใช้มาตั้งแต่อายุ 15-16 แล้วเลยค่อนข้างจะเชื่อถือแบรนด์นี้ค่ะ ที่เราใช้ในตอนนั้นเป็นโฟมล้างหน้ารักษาสิว กับโฟมล้างหน้าหน้าใส ใช้แล้วชอบมาก 69 บาทเองมั้งตอนนั้น จะซื้อทีเราต้องไปซื้อมุมขายยา ต่อมาก็เริ่มพัฒนามาเป็น CC แบบซองเจ้าแรก ๆ เลยมั้ง ในตอนนั้นก็คือใหม่มาก ว้าวมาก ไหนจะแป้ง CC Speed White อีก เริ่มหาซื้อได้ง่ายที่เซเว่น มีความสุขสำหรับเด็กคนหนึ่งที่เบี้ยน้อยหอยน้อยแต่อยากใช้เครื่องสำอางดี ๆ มากเวอร์
ไอเทมสร้างชื่อของเขาคือ ครีมน้ำแตก ใช่ค่ะ ชื่อนี้จริง ๆ ตัวนี้เป็นตำนานมาก โดยเป็นครีมทาผิวให้กระจ่างใสในทันที อารมณ์แบบบีบีพอกตัว พอกหน้า แต่จะแตกต่างตรงที่เนื้อครีมนั้น เวลาทาจะแตกเป็นน้ำ มีกลิ่นหอมละมุน แค่นึกถึงกลิ่นที่ชัดเจนอยู่ในความทรงจำเก่า ๆ จู่ ๆ ขณะเขียน เราก็รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุ 15 อีกครั้งเลยค่ะ…
เอ้า นอกเรื่องซะได้ คือที่เขาขึ้นชื่อในเรื่องของครีมทาผิวกระจ่างใสก็เพราะ ปกติสมัยนั้นเวลาพอกผิว แล้วเรานั่งรถเมล์หรือนั่งเรียน สีจากครีมที่ทาไปมันจะลอกติดเบาะ ติดโต๊ะ ติดกระโปรง ปล่อยโป๊ะกันไป พอการมาของ Cathy Doll ถือกำเนิดขึ้น พวกเราก็หลุดพ้นจากยุคผิวลอกคราบในทันที และเปลี่ยนเป็นผิวแบบลูกคุณหนู ที่คิดเอาเองว่าเริ่ดสุดแล้วในยุคนั้น … แต่ก็นั่นแหละ ผลิตภัณฑ์ของเขานั้นดีจริง ๆ ค่ะ เลยทำให้สาว ๆ ติดใจกันทั่วบ้านทั่วเมือง เป็นตำนานเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้แบรนด์ก็พัฒนาเติบโตมาไกลแล้ว ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของเขาก็มีหลากหลายรูปแบบ หลายราคาให้เลือกหา การตลาดนับวันก็ยิ่งเป๊ะปัง โอ้ย ไม่ต้องพูดเยอะ เอาเป็นว่า ใครที่มีงบจำกัด ถ้าคุณจะลงทุนกับแบรนด์นี้ก็ไม่มีผิดหวังจ้า
คำแนะนำในการซื้อสินค้าออนไลน์
ปกติแล้วเวลาเราซื้อสินค้าออนไลน์ เรามักจะบันทึกวีดีโอก่อนแกะไว้ทุกครั้งค่ะ และเมื่อตรวจเช็คคุณภาพสินค้าอย่างเรียบร้อยแล้วเราถึงจะทำการกดรับสินค้า ลดความวุ่นวานไปได้เยอะเผื่อกรณีที่ผลิตภัณฑ์เสียหายแล้วเรากดรับก่อน ต้องทำเรื่องคืนเงิน/คืนสินค้าอีก (เดี๋ยวนี้ Shopee มีกฎว่าถ้าจะคืนเงิน เราต้องคืนสินค้าให้กับทางผู้ส่งด้วยค่ะ แม้จะกดขอคืนเงินโดยไม่คืนสินค้าก็ตามที เป็นระเบียบใหม่) หากเกิดปัญหาหลังการใช้งาน เราก็จะทำการติดต่อสอบถามแอดมินเพื่อรับคำแนะนำการแก้ไขปัญหาค่ะ
เอาล่ะค่ะ เราก็ขอจบบทความไว้แต่เพียงเท่านี้ หากเรามีแบรนด์ไหนอยากจะมาแนะนำเพิ่มเติม เราจะมาเขียนแนะนำเพิ่มให้นะคะ สำหรับใครที่อยากแสดงความคิดเห็น สามารถคอมเมนท์ได้ที่ช่องคอมเมนท์ด้านล่าง หรือสมัครสมาชิก Edtaro ของเราและเข้ามาพูดคุยกันได้เลยนะคะ