มาตามนัดกับสมาร์ทโฟนปลายปีของ Sony อย่าง Xperia XZ1 เรือธงตัวใหม่ล่าสุด โดยรีวิวนี้จะไม่เจาะลึกมากนักเนื่องจากระบบส่วนใหญ่จะมีความคล้ายคลึงกับ แนะนำให้อ่านรีวิว Xperia XZ Premium ประกอบด้วยครับ ในรีวิวนี้เราจะเน้นที่ส่วนที่มีการปรับปรุงและน่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาจากเดิม
เรือธงของ Sony
ด้วยความที่ Sony ออกสมาร์ทโฟนมามากมายในปีนี้ สเป็คซ้อนกันไปมาบ้าง ชื่อก็คล้ายๆ กันไปหมด หลายคนเริ่มสงสัยว่า “แล้วรุ่นไหนคือเรือธงของ Sony ?”
สำหรับ Sony นั้นมีสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งหมด 3 รุ่น โดยแบ่งเป็น 3 ขนาดตามการใช้งาน น้องเล็กสุด Sony Xperia XZ1 Compact ที่มาด้วยจอเพียง 4.7 นิ้ว 720P แต่อัดแน่นด้วยขุมพลังแบบรุ่นท๊อป มันเลยเป็นสัตว์ประหลาดตัวจิ๋วที่พกความแรงมาเต็มที่ ถัดขึ้นมาคือ Sony Xperia XZ1 รุ่นจอ 5.2 นิ้ว ไซส์ทั่วๆ ไปที่นิยมกัน ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป จับถนัดมือ และพี่ใหญ่ Xperia XZ Premium มาพร้อมจุดเด่นคือจอ 5.5 นิ้ว 4K HDR เรียกว่ามาให้เลือกถึง 3 ขนาดเลยทีเดียว
Specifications
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Google Android™ 8.0 (Oreo) ครอบทับด้วย Xperia UI
- ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 835
- RAM 4 GB LPDDR4X
- หน่วยความจำภายใน 64 GB แบบ UFS 2.1
- รองรับการ์ด microSDXC สูงสุดถึง 256 GB
- จอแสดงผลแบบ IPS ความละเอียด Ful HD 1920×1080 พิกเซล HDR ขนาด 5.2 นิ้ว มาพร้อมกับเทคโนโลยี TRILUMINOS สำหรับมือถือและกลไกภาพ X-Reality สำหรับมือถือ
- กระจกหน้าจอ Corning® Gorilla® 5
- กล้องหลัง Motion Eye™ ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS™ ขนาด 1/2.3 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.22μm f 2.0 เลนส์ G แบบมุมกว้างทางยาวโฟกัส 25 มม. มาพร้อมระบบโฟกัสอัตโนมัติไฮบริดแบบคาดการณ์การเคลื่อนไหวล่วงหน้าได้ สำหรับภาพนิ่งนั้นสามารถถ่ายภาพแบบคาดเดาล่วงหน้าก่อนกดชัตเตอร์ สำหรับวิดีโอมาพร้อมกับระบบกันสั่นอิเลกทรอนิกส์ SteadyShot™ 5 แกนพร้อมโหมดแอคทีฟแบบอัจฉริยะ, การบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K และถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่นที่ 960 เฟรม/วินาที
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Exmor RS™ ขนาด 1/3.06 นิ้ว เลนส์มุมกว้าง f 2.0 ขนาด 22 มิลลิเมตร
- ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียงรอบด้าน S-Force, รองรับระบบเสียง Hi-res Audio, เทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียงความละเอียดสูง LDAC, ระบบปรับแต่งเสียง DSEE HX กับ Clear Audio+ และการตัดเสียงรบกวนแบบดิจิตอล
- สามารถบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้
- มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- กันฝุ่นกันน้ำมาตรฐาน IP65/IP68
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ NFC
- USB Type-C™ 3.1 Gen 1
- รองรับ 2 ซิมแบบนาโนซิม ระบบ Dual SIM Stand-by
- แบตเตอรี่ 2,700 mAh มาพร้อมกับ Qualcomm® Quick Charge 3.0 และ Qnovo Adaptive Charging
Unbox
Xperia XZ1 ใช้รูปทรงกล่องแบบเดิม มาในกล่องสีขาว มีลาย Xperia บนกล่อง อุปกรณ์ที่มาด้วยประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Xperia XZ1 สายชาร์จ USB A to C หัวชาร์จแบบธรรมดา 5V 1.5A และหูฟัง(ที่เครื่องเทสต์ไม่มีมาให้)
Materials & Design
Xperia XZ1 ยังใช้รูปทรง Loop Design ที่ใช้มาตั้งแต่ Xperia XZ แม้หลายคนจะบอกว่ามันเริ่มเป็นการออกแบบที่ “น่าเบื่อ” และ “ล้าสมัย” แต่มันก็ถูกพิสูจน์โดยกาลเวลาแล้วว่ารูปทรงนี้ “เหมาะสมสำหรับ Xperia”
แม้รูปทรงจะเหมือนเดิม แต่ก็มีการปรับปรุงใหม่ หลังจากรุ่นก่อนหน้าโดนแฟนๆ บ่นเรื่องการใช้พลาสติกทำขอบเครื่องมาตลอด Xperia XZ1 ได้เปลี่ยนมาใช้ฝาหลังทำจากอลูมิเนียมชิ้นเดียวจนถึงขอบเครื่องเลย และมีการเดินเส้นสัญญาณที่ไม่เหมือนใครที่บริเวณขอบเครื่อง
ด้านหลังมีการปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์กล้องมาอยู่ตรงกลางเครื่องมากขึ้น และนำ NFC มาไว้ข้างหลังข้างแฟลช
สิ่งที่ Xperia ยังคงไว้เสมอมาคือปุ่มชัตเตอร์แยก และถาดซิมกับ Micro SD ที่ถอดได้โดยไม่ต้องใช้เข็มจิ้ม อำนวยความสะดวกในการใช้งาน แต่ที่ไม่สะดวกคือทุกครั้งที่ดึงถาดนี้ออกมา เครื่องจะรีสตาร์ท และเมือใส่เข้าไปใหม่ก็จะรีสตาร์ทอีกที
ด้านบนและล่างไม่ได้ตัดตรงแบบ Xperia XZ Premium แต่ทำเป็นโค้งๆ ทำให้ไม่สามารถตั้งได้แบบ XZ Premium
ด้านการออกแบบที่ใช้ตัวเครื่องรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ และขอบบนล่างที่เหลือค่อนข้างมากเป็นสิ่งที่มีคนชอบและเกลียดไปพร้อมๆ กัน หลายๆ คนชอบความโดดเด่นของทรงเหลี่ยม แต่อีกหลายคนก็รู้สึกว่าความเหลี่ยมทำให้ถือบางมุมแล้วเจ็บมือ รวมถึงขอบบนล่างที่หลายคนชอบเพราะไว้วางนิ้ว แต่หลายคนก็เกลียดเพราะทำให้เครื่องยาวโดยใช่เหตุ
ส่วนที่เป็นจุดเด่นเสมอมาของ Sony คือการเลือกใช้สี โดยรอบนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 สี ตั้งชื่อสีตามช่วงเวลาของวัน
- Moonlit Blue สีท้องฟ้าช่วงพลบค่ำ
- Black สีท้องฟ้าตอนกลางคืน
- Warm Silver สีท้องฟ้าช่วงกลางวัน
- Venus Pink สีท้องฟ้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้น
อุปกรณ์สำหรับชมภาพยนต์ชั้นยอด
Xperia XZ Premium น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาย่อมเยาว์ที่สุดในไทยที่ได้จอ HDR โดยจอ HDR จะแสดงผลแสงและสีได้กว้างกว่าจอทั่วไป ให้ประสบการณ์การรับชมที่สมจริงกว่าเดิม และในปัจจุบันการเข้าถึงคอนเทนต์ HDR หลายคนอาจจะมีความเจ็บปวดกับ Xperia Z5 Premium ที่ได้จอ 4K มาทั้งทีแต่กลับหาคอนเทนต์เล่นไม่ได้ แต่สำหรับวิดีโอ HDR นั้น ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากเลยในการหามาเล่น มีทั้งเสียเงินอย่างเช่น Netflix หรือบริิการฟรีอย่าง YouTube ประกอบกับลำโพงคู่หน้า S-Front ทำให้มันเหมาะเป็นอุปกรณ์ในการรับชมภาพยนต์มาก แม้ลำโพงจะเบาไปนิด แต่หากรับชมในห้องคนเดียวนี่สบายๆ
เครื่องซ้ายจอ SDR ปกติ ส่วนเครื่องขวาคือ Xperia XZ1 เปิด HDR จะเห็นว่าสามารถแสดงผลจุดที่มืดและสว่างได้สมจริงกว่า
กล้อง Motion Eye พร้อมระบบ Correction for image corrction
กล้องของ Xperia XZ1 ยังใช้กล้อง Motion Eye เหมือนกับรุ่น Xperia XZ Premium และ Xperia XZ1 โดยมีฟีเจอร์เด่นคือสามารถถ่ายวิดีโอ Super Slow-motion 960 fps ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีการปรับปรุงอะไรเลย มีการปรับปรุงระบบ Predictive capture ที่จากเดิมจะทำการคาดเดาและถ่ายรูปล่วงหน้าก่อนเราจะกดชัตเตอร์จากการเคลือนไหวอย่างเดียว รอบนี้ Sony เข้าใจผู้ใช้มากขึ้น สมาร์ทโฟนเราเอาไว้ถ่ายคนมากกว่าถ่ายสิ่งเคลื่อนไหว จึงทำการตรวจสอบและคาดเดาจากการยิ้มด้วย
และที่สำคัญที่สุด หลังจากดราม่ากันใหญ่โตในกลุ่มเล็กๆ(?) Sony ได้ออกอัปเดตและแก้อาการ “กล้องเบี้ยว” ที่ถ่ายรูปเส้นตรงแล้วภาพออกมาเป็นคลื่นได้แล้ว พอกันทีกับถ่ายสะพานแล้วโดนทักว่าสะพานจะถล่ม
นอกจากนั้นยังมีการปลดล็อกระบบ Manual ให้สามารถแยกการปรับค่าของความเร็วชัตเตอร์และ ISO ได้แล้ว แต่ Speed Shutter ยังล็อกไว้ที่ 1 วินาทีอยู่ และยังถ่ายไฟล์ RAW ไม่ได้
ด้านกล้องหน้าได้เพิ่มเติม Softbox light หรือการเปิดจอเป็นแสงนวลเวลาถ่ายเซลฟี่ ทำให้หน้าออกมานวลสวยงาม ไม่ใช่แสงทื่อๆ แบนๆ แบบเวลาใช้แฟลช LED และด้วยระยะโฟกัสของเลนส์ทำให้เวลาเซลฟี่แล้วภาพออกมาผอมกว่าตัวจริงด้วย
แม้ว่าระบบกล้องจะยังไม่ครบครันถูกใจสายถ่ายภาพเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการถ่ายแนว Street และถ่ายภาพอาหารสวยสุดๆ เหมือนเดิม
ฟีเจอร์ใหม่ Burst shot แล้วทำเป็นอนิเมชัน
อีกฟีเจอร์ของกล้องที่เพิ่มเข้ามาคือการถ่ายภาพแบบ Burst shot โดยโฟกัสจะติดตามวัตถุทุกรูป จากนั้นแปลงภาพทั้งหมดเป็นวิดีโอความละเอียดสูง
ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการถ่ายวิดีโอเช่นเดิม
Xperia XZ1 ยังเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่เหมาะแก่การถ่ายวิดีโอ ด้วยระบบกันสั่น EIS ทั้งกล้องหน้าและหลังที่ให้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมมาก เสียดายที่ใช้ตอน Live สดไม่ได้ และไมค์สเตอริโอคุณภาพดี มีจุดที่ตินิดหน่อยคือตำแหน่งไมค์ด้านขวาที่อยู่ในตำแหน่งที่เวลาจับสมาร์ทโฟนแนวนอนแล้วมือมักจะไปอุดไมค์พอดี
Android Oreo รุ่นแรกในประเทศไทย
สิ่งที่เหนือกว่าหลายๆ ยี่ห้อของ Sony คือความเร็วในการอัปเดตของรุ่นท๊อป Xperia XZ1 ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของหลายค่ายยังเป็น Android Nougat กันอยู่ แต่ Xperia XZ1 นั้นมาพร้อม Android รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Android 8.0 Oreo และตามอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยประจำเดือนให้ทุกเดือนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ถูกใจคนที่ต้องการของใหม่ล่าสุดตลอดเวลาแน่นอน
Launcher ที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียง Google Pixel แต่ยังไม่สมบูรณ์ดี
Sony Xperia XZ1 มาถูกครอบทับหน้าแรกด้วย Launcher ของตัวเองในชื่อ Xperia Home ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์หลายอย่างที่ใกล้เคียง Pixel Launcher ทั้งการที่หน้าซ้ายสุดเป็น Google Now การแจ้งเตือนด้วย Dots แต่มันเหมือนของที่ยังทำไม่เสร็จ ทั้งขาดฟีเจอร์ Adaptive Icon ยังใช้ปุ่ม App Drawer อยู่ และยังไม่ย้ายแถบเสิร์ชไปไว้ใน Dock เป็นต้น
ประสิทธิภาพ
เราคงไม่ขอเอ่ยถึงส่วนนี้มาก เฟิร์มแวร์ของ Sony เป็นเฟิร์มแวร์ที่เรียบๆ ไม่ค่อยมีการปรับแต่งเท่าไหร่ ผสานกับสเป็คระดับเรือธงในปัจจุบัน เรียกว่าไม่มีอะไรต้องกังวล เล่นเกมหายห่วงแน่นอน
แบตเตอรีที่อยู่ได้ค่อนวัน
ก่อนหน้านี้เราได้รับการคอนเฟิร์มจากหลายคนว่านี่เป็นสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรีทนเกินตัวเลข สามารถใช้งานเต็มวันได้สบายๆ แต่การใช้งานจริงของเราไม่ใช่อย่างนั้น ผมสามารถใช้งานได้ประมาณ ค่อนวันเท่านั้น พอช่วงบ่ายต้องเตรียมเสียบชาร์จแล้ว
3D Creator ฟีเจอร์ใหม่ที่เจ๋งด้านเทคโนโลยี แต่เป็นรองด้านการใช้งานจริง
ฟีเจอร์ที่ Sony ภาคภูมิใจและนำมาพรีเซนต์ในรุ่นนี้คือ 3D Creator มันคือการสร้างภาพ 3 มิติโดยใช้เพียงสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เรียกว่าเจ๋งขนาดได้รับรางวัล Best of IFA 2017 จากเว็บไซต์ Android Authority ในงาน IFA 2017 ที่ผ่านมา
วิธีการใช้งานเพียงเปิดแอปพลิเคชัน 3D Creator ขึ้นมา เลือกสแกน จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 โหมด
-
- สแกนใบหน้า เป็นระบบสแกนที่เหมาะกับการสแกนเฉพาะช่วงใบหน้าเรา
- สแกนหัว คือสแกนภาพสามมิติช่วงหัวถึงไหล่
- สแกนอาหาร เหมาะสำหรับสแกนอาหารหรือวัตถุเรียบๆ
- สแกนอิสระ เป็นโหมดสำหรับผู็ที่เริ่มเข้าใจการทำงานของมันแล้ว และไม่ต้องการให้แอปมันมาคอยแนะนำให้ โหมดนี้จะปล่อยให้เราใช้งานได้อย่างอิสระ
เมื่อเลือกโหมดได้แล้ว แอปจะคอยไกด์ให้เราว่าต้องทำอย่างไร หลักๆ คือการเปิดกล้อง และหมุนกล้องไปมาจนทั่วแบบ เมื่อทำเสร็จ ระบบจะทำการปั้นเป็นโมเดล 3 มิติอัตโนมัติ ซึ่งเราก็ต้องทึ่งกับสิ่งที่ได้มา แถมมันยังตัดแบ็คกราวด์ออกจากวัตถุได้เนียนมาก
ซึ่งเจ้าโมเดลตัวนี้เราสามารถส่งไปพิมพ์ 3 มิติได้ แชร์เป็นลิงก์ให้คนอื่นเข้าไปดูได้ สามารถ export ออกมาเป็นไฟล์นำไปใช้งานต่อได้
ฟีเจอร์นี้สำหรับผมมันหลอนมาก ตั้งโมเดล 3 มิติเป็น Live Wallpaper ลองคิดภาพตามว่าเอาโมเดลคุณภรรยาหรือแฟนตั้งเป็น Live Wallpaper เราจะได้หน้าเธอคอยจ้องมองคุณตลอดเวลาแม้ว่าคุณจะเอียงจอหลบ
หรือจะนำไปใส่เป็นเอฟเฟ็กต์กล้อง AR ก็ได้
นอกจากนั้นคือยังเปิดให้แอปภายนอกนำไปใช้ โดยตอนนี้มีแอป Shadow Avatars ที่จะนำรูปเราไปใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ ทำมีมไว้ส่งให้เพื่อน
ซึ่งจากการทดลองถ่าย 3D Creator หลายๆ ครั้ง พบข้อจำกัดพอสมควร เช่น ถ่ายวัสดุโปร่งใสหรือโปร่งแสงมากๆ ไม่ได้ เช่น แก้วน้ำนี่หมดสิทธิ์เลย พวกวัสดุที่สะท้อนแสงก็ไม่ได้ พวกถ้วยชามถ้าผิดมุม สะท้อนแสงมากหน่อย ภาพก็จะเละ สิ่งของที่ขอบบางเกิน หรือยื่นออกมามากเกินก็ได้ เช่น ถ่ายชามก๋วยเตี๋ยวทีไร ขอบชามตรงที่น้ำก๋วยเตี๋ยวไม่ถึงจะเละทุกที และสภาพแสงต้องค่อนข้างคงที่ ไม่มืดไป ไม่สว่างไป ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วพอถ่ายในอาคารทีไร มันบอกว่ามืดไปทุกที ที่สำคัญคือมันใช้อาณาบริเวณกว้างในการถ่าย ต้องมีพื้นที่พอจะเดินวนรอบแบบ แบบต้องไม่สูงไปจนเรามองไม่เห็น และการถ่ายครั้งหนึ่งต้องใช้เวลา 1-3 นาที เรียกว่าถ้าจะกินข้าวกับเพื่อนแล้วหยิบมาถ่ายอาหารนี่อาจโดนเพื่อนโมโหหิวใส่ได้เหมือนกัน(ประสบการณ์ตรง)
สำหรับสาวกรถเหล็ก TOMICA เสียใจด้วย รถคุณคันเล็กเกินไป ถ่ายยังไงก็ไม่สวย
เมื่อเราใช้ไปสักพักเราก็รู้สึกว่า “แล้วเอาไปทำอะไรต่อ?” เรียกว่าเอาไปถ่ายได้ไม่กี่อย่าง เอาไปถ่ายในชีวิตประจำวันก็เสียเวลา ต้องใช้พื้นที่ มือไม่นิ่งโมเดลก็ออกมาเบี้ยวอีก เปิดกล้องมาถ่ายรูปปกติให้จบๆ ไปดีกว่า เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีความเฉพาะตัวสูงมาก และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
สิ่งที่เราเล็งเห็นจริงๆ เลยคือในอนาคต Sony น่าจะเอาไว้ใช้ทำเป็น Avatar ในเกมต่างๆ
Assist ผู้ช่วยสุดฉลาดที่ทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนง่ายขึ้น
Xperia XZ1 มาพร้อมระบบที่เรียกว่า Assist เป็นเหมือนคู่มือการใช้สมาร์ทโฟนที่ดูน่าใช้ ไม่น่าเบื่อ
- Introduction to Xperia : ส่วนแนะนำการใช้งานต่างๆ เรียกว่าอ่านจบใช้งานเครื่องเป็นระดับหนึงเลย แถมคำสั้นๆ เข้าใจง่าย
- Xperia Tips : ตามคำแนะนำคือมันจะแนะนำเทคนิคการใช้งานต่างๆ ให้เรา แต่ตั้งแต่ใช้มามันก็ยังไม่แนะนำอะไรให้เราเลย
- Xperia Actions : เป็นระบบคล้ายๆ โปรไฟล์ของสมาร์ทโฟน ที่จะปรับการตั้งค่าของสมาร์ทโฟนให้เหมาะกับชีวิตประจำวันเรา เช่น เวลานอนก็จะปิดเสียง ปิดแจ้งเตือน เวลาทำงานก็จะเปิดสั่น เปิดแจ้งเตือนเฉพาะแอปสำคัญ เวลาเล่นเกมก็จะดึงประสิทธิภาพเครื่องมาอยู่ที่แอปเกม เวลาเดินทางก็จะเปิดเพลงอัตโนมัติ
- Stamina Mode : ระบบประหยัดแบตเตอรี่ที่จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งาน นอกจากนั้นหากมีท่าทีว่าแบตเตอรี่เราจะหมดไวกว่ากำหนด จะมีการแจ้งเตือนด้วย
- Smart Cleaner : จะคอยเคลียร์ขยะต่างๆ บนเครื่องเราเพื่อคงประสิทธิภาพของเครื่องไว้
- Battery Care : ระบบถนอมแบตเตอรีของ Xperia ที่จะสำรวจเวลานอนของเรา และจะชาร์จแบตเพียง 90% จนใกล้ๆ ตื่นค่อยชาร์จเต็ม 100%
ระบบ Assist ที่เราเห็นในวิดีโอของ Sony แต่ของจริงเรายังไม่เห็นมันทำแบบในวิดีโอเลย
Support ศูนย์รวมการบำรุงรักษาเครื่อง
นี่เป็นส่วนที่เราชอบที่สุด คือมันรวมทุกวิธีการบำรุงรักษาเครื่องไว้ในที่เดียว ทั้งการแบ็คอัพข้อมูล คู่มือการใช้ การรีเซ็ตเครื่อง ข้อมูลเครื่อง ส่วนที่ไว้เช็คการทำงานของฮาร์ดแวร์ต่างๆ
และที่สำคัญที่สุด ช่องทางการติดต่อศูนย์บริการ พอกันทีกับการจะติดต่อศูนย์ทีต้องมานั่งหาเบอร์ใน Google บางทีโทรไปเป็นเบอร์เก่าอีก
รองรับ Project Treble
Project Treble เป็นการแยกชั้นฮาร์ดแวร์ออกจากซอฟต์แวร์ ทำให้การที่ผู้ผลิิตจะอัปเดต Android เวอร์ชันใหม่ไม่จำเป็นต้องรอโค้ดจากผู้ผลิตชิปเซ็ต ช่วยลดขั้นตอนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะมากับสมาร์ทโฟน Android ที่มาพร้อม Android 8 Oreo จากโรงงาน และ Xperia XZ1 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเหล่านั้น
สรุป
Xperia XZ1 เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพดี ไว้ใจได้ ในราคาที่ไม่โหดเกินไป หรือผู้ที่ชอบประสบการณ์ในงานแบบ Xperia XZ Premium แต่รู้สึกว่าจอ XZ Premium ใหญ่เกินไป