เครื่องล้างพื้น Roborock Dyad Pro เปิดตัวได้น่าสนใจ ด้วยการยกระดับการทำความสะอาดบ้าน ให้สะอาดและง่ายขึ้น โดยมีราคาเต็มที่ 44,990 บาท แต่ตอนนี้มีส่วนลดเหลือ 18,900 บาท ที่ Shopee, Lazada และเว็บไซต์ Roborock Thailand

โรโบร็อค ไดแอด รุ่น โปร ( Roborock Dyad Pro ) เครื่องล้างพื้นไร้สาย ที่ดูดฝุ่นถูขัดเปียกได้ในเครื่องเดียว

Cordless Handheld Wet and Dry Vacuum Cleaner

ในการเปิดตัวรุ่นนี้ ทางโรโบร็อคได้นำเสนอภายใต้แนวคิด “ดีกว่า ง่ายกว่า สะอาดกว่า” และจากที่ผมได้ลองใช้งานแล้วต้องบอกว่าคำนี้ไม่เกินจริงเลย

ความประทับใจจากการใช้งานจริง

การใช้งานจริงไม่อิงสเปก ผมชอบเซ็นเซอร์ตรวจจับความสกปรกที่โชว์สถานะบนจอ LED ทำให้เรารู้ว่าพื้นที่ไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และยังปรับแรงดูดให้อัตโนมัติด้วย ซึ่งในความเป็นจริงมันฟินมากครับ มันเหมือนเราได้เห็น before/after ของการทำความสะอาดพื้น

ถัดมาที่ผมชอบเป็นพิเศษคือระบบทำความสะอาดตัวเอง ที่ทำได้ในระดับจัดการเส้นผมที่พันหัวแปรงให้สะอาดได้ และมีระบบเป่าลมร้อนแก้ปัญหากลิ่นอับ ซึ่งมันดีกว่าเครื่องดูดฝุ่นถูพื้นในอดีตมาก

และการเข้าประชิดได้ 1 มม. ทำให้เข้าถึงซอกมุมได้ดีกว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป และยังแยกถังน้ำเป็น 3 จุดทำให้ดูแลง่ายกว่า ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นรวมถึงเครื่องถูพื้นรุ่นเก่าๆ มักมีปัญหาพวกนี้ โดยเฉพาะการทำความสะอาดตัวเครื่องที่ยากมาก เราต้องมานั่งทำความสะอาดแปรง โดยเฉพาะเส้นผมที่พันหัวแปรงนี่ต้องเอาใบมีดมาช่วยตัดเลยก็มี และยังต้องเอาหัวแปรงไปล้างแล้วผึ่งให้แห้ง ในขณะที่ Roborock Dyad Pro จัดการความยุ่งยากพวกนี้ได้หมดเลย

ฟีเจอร์เด่น สเปกหลัก

หากมองในแง่คุณสมบัติแล้วจัดว่า Roborock Dyad Pro สร้างความตื่นเต้นได้ทั้งในเชิงเทคนิคและการใช้จริง ที่ดีกว่า ง่ายกว่า และสะอาดกว่า โดย Roborock Dyad Pro มาพร้อมแรงดูดสูงถึง 17,000 Pa พร้อมกับมอเตอร์ที่หมุน 110,000 รอบต่อนาที ช่วยเพิ่มแรงดูดให้สะอาดยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ครอบคลุมพื้นที่ 300 ตารางเมตร

ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือตัวแปรงทำความสะอาด ที่ใช้ระบบหัวแปรงคู่ ( Double Roller Brushes ) ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงเดี่ยวแบบดั้งเดิม โดยแบ่งแยกย่อยเป็นด้านหน้า 2 แปรงและด้านหลังอีก 1 แปรง โดยแปรงจะหมุนคนละทิศสวนทางกัน ( Two Direction Traction ) ทำให้ไม่ต้องออกแรงมากไม่ว่าจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือดึงเครื่องถอยหลัง และยังช่วยลดปัญหาเส้นผมพันหัวแปรงด้วย

ดูแลรักษาได้ง่ายกว่า

จุดเด่นถัดมาคือการดูแลรักษา โดยมีระบบทำความสะอาดตัวเอง พร้อมกับการเป่าลมร้อนเพื่อลดกลิ่นอับ และแปรงหมุน 2 ทิศทางช่วยลดการพันของเส้นผมได้ด้วย

ด้านตัวถังแบ่งออกเป็น 3 จุด คือ

• แทงค์เก็บน้ำสะอาด ความจุประมาณ 900 มล.
• แทงค์เก็บน้ำเสีย ความจุประมาณ 760 มล.
• แทงค์เก็บน้ำยาถูพื้น

ซึ่งการแยกประเภทถังแบบนี้ช่วยให้ดูแลรักษาได้ง่าย และยังช่วยยืดอายุอุปกรณ์ให้ใช้ได้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วย

ประหยัดน้ำยามากกว่า

การผสมน้ำยาทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการแยกแทงค์น้ำยาทำความสะอาดไว้ต่างหาก ทำให้เราไม่ต้องกะปริมาณอัตราส่วนของน้ำยากับน้ำเอง เพียงแค่เติมน้ำยาไว้ในแทงค์ก็จะถูกดึงไปผสมกับน้ำให้เอง โดยน้ำยา 1 แทงค์สามารถใช้งานได้ 600 นาที หรือประมาณ 10 ชั่วโมง หรือใช้ผสมกับน้ำสะอาดได้ 20 แทงค์ ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำยาบ่อยๆ และยังประหยัดกว่าการผสมเองด้วย

อย่างไรก็ตามทาง Roborock แนะนำว่าควรใช้ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาด OMO Roborock หรือน้ำยาที่แนะนำเท่านั้น

ปรับมุมองศาเข้าซอกมุมได้ดีกว่า

โดยทั่วไปแล้วเครื่องดูดฝุ่นจะไม่สามารถเข้าใกล้กำแพงได้มากนัก ทำให้มีเศษฝุ่นผงติดอยู่ตามขอบตู้ เตียง ชั้นวางของ ฯลฯ ซึ่ง Roborock ก็เข้าใจปัญหานี้เลยพัฒนาให้ Roborock Dyad Pro เข้าใกล้ผนังได้ใกล้กว่า 1 มม.

ระบบที่ชาญฉลาดกว่า

DirTect คือเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งสกปรกอัจฉริยะ ทำให้เราสามารถดูปริมาณความสกปรกผ่านหน้าจอ LED ได้ โดยสีแดงคือสกปรกมาก และสีน้ำเงินคือสะอาดมาก เมื่อตรวจจับปริมาณความสกปรกได้ก็ทำให้ Roborock Dyad Pro สามารถปรับพลังการทำความสะอาดและการไหลของน้ำให้เหมาะสม แต่ในกรณีที่เราต้องการปรับระดับเองก็สามารถทำได้เช่นกัน

โหมดการใช้งานมีให้เลือกครอบคลุมการใช้งาน ได้แก่

• อัจฉริยะ (AUTO Mode)
• โหมดสูงสุด (MAX Mode)
• โหมดดูดพื้นให้แห้ง (Floor Drying Mode)
• โหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode)

และยังมีการตอบสนองด้วยเสียงที่รองรับภาษาไทย ช่วยแจ้งสถานะต่างๆ เช่น ถังน้ำสะอาดเต็ม, ถังน้ำเสียเต็ม, กำลังชาร์จ ฯลฯ พร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 43 นาที ครอบคลุมพื้นที่ 300 ตรม. ทำให้ไม่ต้องหยุดเพื่อชาร์จบ่อยๆ

เชื่อมต่อแอปเพื่อความใหม่ตลอดเวลา

หลายคนคงสงสัยว่าเราจะเอา Roborock Dyad Pro ต่อแอปเพื่ออะไร เรื่องนี้ก็ตอบไม่ยากเลยครับ เหตุผลก็คือตัวแอปช่วยทำให้เราเข้าใจสถานะของเครื่องได้มากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าฟิลเตอร์และแปรงโรลเลอร์ รวมถึงน้ำยาทำความสะอาด เหลืออยู่กี่เปอร์เซ็น และประมาณการให้ด้วยว่าจะใช้งานได้อีกกี่ชั่วโมง เพื่อให้เราซื้ออะไหล่ชิ้นใหม่มาเตรียมเปลี่ยนได้

รวมถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้ Roborock Dyad Pro ทำงานได้มีประสิทธิภาพดีและฉลาดขึ้นตลอดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าภาษาไทยได้ ทั้งเสียงตอบสนองจากตัวเครื่องและเมนูแอป

นอกจากนี้เรายังสามารถสั่งให้ตัวเครื่องทำความสะอาดตัวเองได้ทันที หรือจะตั้งเวลาล่วงหน้าก็ได้ โดยเลือกได้ว่าจะความสะอาดตัวเองมากน้อยแค่ไหน

ตั้งได้ไม่ต้องใช้แท่น

Roborock Dyad Pro ออกแบบมาให้วางตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยแท่นชาร์จ และไม่ต้องวางพิงสิ่งอื่นใด ต่างจากอุปกรณ์ทำความสะอาดในลักษณะเดียวกันในท้องตลาด ทำให้เครื่องล้างพื้นชิ้นนี้เคลื่อนย้ายและใช้งานสะดวกกว่าที่เคย

ดีไซน์สวย ดูทันสมัย

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับของใช้ในยุคนี้เลยคือเรื่องดีไซน์ ที่ต้องออกแบบมาให้สวยงามน่าใช้ ซึ่ง Roborock Dyad Pro เป็นเครื่องล้างพื้นที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย สวยในระดับที่วางเป็นของตกแต่งบ้านได้เลย ต่างจากเครื่องมือทำความสะอาดยุคก่อนที่ต้องเอาไปหลบซ่อนตามมุมหรือเก็บเข้าตู้

บทสรุปของ Roborock Dyad Pro ที่ “ดีกว่า ง่ายกว่า สะอาดกว่า”

แม้ว่าจะมีนิยามการเปิดตัวว่า “เครื่องล้างพื้น” แต่ Roborock Dyad Pro ก็ทำได้ทั้งการดูดฝุ่น การถูขัดพื้นเปียก พร้อมกับความอัจฉริยะอีกมากมายที่ใช้งานได้จริง ตั้งแต่การดีไซน์ตัวเครื่องให้วางตั้งได้โดยไม่ต้องใช้แท่น สามารถเอียงและขยับชิดเข้าตามขอบมุมได้ใกล้ รวมถึงการบริหารจัดการปริมาณน้ำยาเอง และการตรวจจับความสกปรกเพื่อปรับเปลี่ยนความเข้มข้นในการทำความสะอาด นี่เป็นบางส่วนที่ทำให้ Roborock Dyad Pro เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ครบเครื่องและน่าใช้มาก

นอกจากนี้ยังสามารถลงทะเบียนรับประกันได้สูงสุดถึง 3 ปี ให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจครับ หากเทียบกับราคาโปรโมชั่น 18,900 บาทในตอนนี้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่คุ้มค่ามากๆ