หน้าร้อนประเทศไทยวนกลับมาอีกครั้ง อย่างที่รู้ว่าฤดูร้อนของประเทศไทยนั้นร้อนไม่ธรรมดา เราก็ต้องเปิดแอร์นี่แหละถึงจะอยู่กันได้ ซึ่งแอร์ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่กินไฟ ยิ่งแอร์มีอายุมาก ยิ่งกินไฟตามเทคโนโลยีและอายุการใช้งานครับ วิธีแก้ปัญหาก็ต้องซื้อรุ่นใหม่ที่ทันสมัยกว่าและประหยัดกว่ามาติดนี่แหละ แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่ารุ่นไหนประหยัดไฟ วันนี้เราจะมาสอนวิธีดูกันครับ
รายละเอียดอยู่บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
สำหรับแอร์ที่ขายอยู่ในประเทศไทย วิธีดูง่ายที่สุดคือดูข้อมูลบนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ครับ ดูผ่านๆ เราจะเห็นว่าทุกรุ่นนั้นได้เบอร์ 5 เหมือนกันหมด แต่จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่างกัน
อย่างแรกคือจำนวนดาวครับ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะมีดาวอยู่ด้านบน ยิ่งดาวเยอะ แปลว่ายิ่งประหยัดไฟ โดยจะมี 3 ระดับ คือ 1 ดาว, 2 ดาว และ 3 ดาว ซึ่งแอร์ที่ได้ประหยัดไฟเบอร์ 5 สามดาวก็มีเต็มไปหมดเช่นกัน ให้เรามาดูตัวเลขถัดไปในฉลากประหยัดไฟครับ
SEER / EER
สำหรับค่าถัดมาคือค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) สำหรับแอร์แบบ Inverter และค่า EER (Energy Efficiency Ratio) สำหรับแอร์แบบธรรมดา ทั้ง 2 ค่าใช้บอกประสิทธิภาพการใช้พลังงานของแอร์ จะมีเขียนบอกไว้ในฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ครับ ยิ่งตัวเลขเยอะ หมายความว่าแอร์ตัวนั้นใช้ไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดไฟกว่านั่นเอง
และนี่ก็เป็นเทคนิคสำหรับการเลือกเครื่องปรับอากาศโดยดูค่าที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 บนตัวแอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกแอร์ยังต้องพิจารณาเรื่องอื่นๆ อีก เช่น ขนาด BTU ที่ต้องเลือกให้สอดคล้องกับขนาดห้องของเรา รวมถึงจุดติดตั้งแอร์ด้วยครับ