DHL Express เปิดให้บริการเพิ่มส่งด่วนกระบองเพชรและไม้ใบจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ววันนี้

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดให้บริการขนส่งด่วนสำหรับต้นไม้ที่เน่าเสียได้ยาก เช่น กระบองเพชร (แคคตัส) และไม้ใบจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอเมริกา โดยเพิ่มประเทศในการให้บริการปัจจุบันที่ส่งแคคตัส และไม้ใบบางประเภทไปยังสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา การให้บริการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถมีโอกาสในการทำธุรกิจจากความต้องการต้นไม้ของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดสหรัฐฯ

ผู้ประกอบการส่งออกต้นไม้ประเภทที่เน่าเสียได้ยาก (non-perishable plant) เช่น กระบองเพชร (แคคตัส) และไม้ใบในประเทศไทยจะสามารถเข้าถึงลูกค้าในสหรัฐอเมริกาผ่านการจัดส่งด่วนของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ภายในระยะเวลา 3-5 วันโดยผู้ส่งสามารถติดตามสถานะการจัดส่งในกระบวนการซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางผู้รับ ผ่านเครือข่ายการขนส่งด่วนทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน และบริการด้านลอจิสติกส์ที่ครอบคลุมของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส

ระยะเวลาในการขนส่งขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และครบถ้วนของเอกสารสำคัญที่ผู้ส่งต้องเตรียม รวมถึงกระบวนการตรวจสอบและพิธีการศุลกากรในประเทศที่เป็นทางผ่านและประเทศปลายทาง

ตลาดต้นไม้ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าการนำเข้าต้นไม้และพืชอื่นๆ ทั่วโลกมีมูลค่าราว 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 โดยสหรัฐฯ จัดเป็นตลาดระดับแนวหน้าซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ และครองตำแหน่งประเทศที่นำเข้าต้นไม้สูงที่สุดในปี 2565[1] โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์รายสำคัญที่จัดส่งต้นไม้ไปยังสหรัฐฯ และเป็นประเทศที่ส่งออกไม้ประดับและพันธุ์ไม้ตกแต่งแถวหน้าของอาเซียนโดยครองอันดับ 1 ของภูมิภาคและอันดับที่ 16 ของโลกในปี 2565 มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 124.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดสำคัญในการส่งออก[2]

การส่งออกต้นไม้ที่เน่าเสียได้ยากจากไทยไปยังสหรัฐฯ ต้องใช้ใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary Certification) เพื่อรับรองว่าต้นไม้ที่ส่งออกปลอดศัตรูพืช และเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศปลายทาง ใบรับรองปลอดศัตรูพืชช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ส่งออกปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) สำหรับการนำเข้าพืช และผู้รับปลายทางต้องติดต่อกระทรวงฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนสินค้าจะถูกจัดส่งเพื่อเตรียมเอกสารการนำเข้าสินค้า และช่วยให้สามารถจัดส่งถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว ส่วนใบอนุญาตส่งออกไซเตส (CITES: อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของประเทศต้นทางว่าชิปเมนต์ดังกล่าวมีต้นไม้สายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองโดย CITES หรือไม่