ปัจจุบันคะแนนทดสอบกล้องในเว็บไซต์ DxOMark เป็นตัวชี้วัดคุณภาพกล้องมือถือให้กับใครหลายๆ คน ด้วยการที่เว็บนี้ทดสอบกล้องมือถือหลากหลายรุ่นมาก มีคะแนนที่ดูง่าย และผู้ผลิตหลายๆ เจ้าก็นำคะแนนตรงนี้มาโฆษณามือถือของตัวเอง ในขณะเดียวกันเว็บไซต์นี้ก็ถูกตั้งคำถามมากมายเรื่องความน่าเชื่อถือ เราจึงได้รวบรวมคำตอบมาให้ทุกท่านเพื่อคลายข้อสงสัยครับ

DxOMark มีมาตรฐานไหม?

มีแน่นอนครับ ทาง DxOMark ได้เขียนเกี่ยวกับวิธีทดสอบกล้องของพวกเขาเอาไว้ว่าการทดสอบของพวกเขามีการควบคุมตัวแปรอย่างเข้มงวด ใช้คอมพิวเตอร์ในการวัดผลเพื่อความแม่นยำ และทำการทดสอบซ้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่ได้ไม่ผิดพลาด แม้การทดสอบบางอย่างจะไม่สามารถควบคุมตัวแปรได้ เช่น การทดสอบกลางแจ้งต่างๆ แต่การทดสอบเหล่านั้นก็เกิดการทำซ้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้ค่าออกมาแม่นยำที่สุด

ตัวอย่างการทดสอบในห้องแล็บ

ตำแหน่งสถานที่ต่างๆ ที่นำกล้องไปทดสอบกลางแจ้ง

การจะนำมือถือไปทดสอบกับ DxOMark มีค่าใช้จ่ายไหม?

ไม่มีครับ ทาง DxOMark ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Android Headlines ว่าพวกเขาทดสอบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และเป็นคนจัดตารางการทดสอบเองทั้งหมด พวกเขามองว่าการทดสอบกล้องและมือถือนี้คือการโฆษณาบริการซอฟต์แวร์ ห้องแล็บ และบริการให้การปรึกษาของพวกเขา

ทำไม DxOMark ถึงไม่ทดสอบมือถือบางรุ่น?

ทาง DxOMark ให้เหตุผลว่าเนื่องจากพวกเขาไม่ว่างครับ ปัจจุบันมือถือ Android ใหม่ๆ เปิดตัวเยอะมาก ทำให้พวกเขาทดสอบไม่ทัน และทาง DxOMark เริ่มหันมาสนใจมือถือระดับกลางเนื่องจากกล้องเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จำนวนมือถือที่ต้องทดสอบยิ่งเพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก

คะแนนแต่ละตัวของ DxOMark มีความสำคัญเท่ากันไหม?

ไม่เท่าครับ คะแนนที่อยู่บนๆ จะมีความสำคัญกว่าตัวล่าง หมายความว่า คะแนนของ Exposure 1 คะแนน มีค่ามากกว่าคะแนนของ Flash 1 คะแนนอย่างแน่นอน ยิ่งคะแนนตัวบนๆ สูง คะแนนรวมที่ออกมาจะยิ่งสูง

มือถือที่ส่งให้ DxOMark ทดสอบใช้เฟิร์มแวร์รุ่นไหน?

ทาง DxOMark ยืนยันว่าการทดสอบกล้องมือถือจะทำบนเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นขายจริงเท่านั้นครับ

ช่วงปลายปีที่แล้ว DxOMark มีการเปลี่ยนการให้คะแนนใหม่ มีการเพิ่มคะแนนย่อยทางด้าน Zoom และ Bokeh เข้ามา และทำให้มือถือที่ถูกทดสอบด้วยระบบใหม่นำไปเปรียบเทียบกับระบบเดิมไม่ได้ ทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ด้วย?

DxOMark ได้อธิบายไว้ว่าเนื่องจากเทคโนโลยีกล้องมือถือในปัจจุบันก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพของกล้องสูงกว่าเดิมมากจนเกินขีดจำกัดของการทดสอบเดิมไปแล้ว จึงต้องมีการอัปเกรดการทดสอบใหม่ให้ดีขึ้น โหดขึ้น เพื่อให้คะแนนที่ออกมาสะท้อนความสามารถของกล้องจริงๆ ได้ รวมถึงปัจจุบันการมาของกล้องคุ่ทำให้คนเริ่มสนใจการ Zoom ด้วยกล้องมือถือและการทำเอฟเฟกต์ Bokeh กันมากขึ้น จึงเพิ่มการทดสอบในส่วนนี้เข้ามาครับ

ทำไมคะแนน DxOMark ถึงเกิน 100 คะแนน

หลายคนเข้าใจผิดว่าคะแนน DxOMark เป็นคะแนนความพึงพอใจ จึงมีการตันของคะแนน จริง แล้วคะแนน DxOMark เป็นคะแนน Benchmark เอาไว้ดูในเชิงเปรียบเทียบครับ คะแนนจึงสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุด นั่นหมายความว่าคะแนน DxOMark ไม่มีจุดที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่สามารถบอกได้ว่ากล้องที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นคือรุ่นไหน

ทำไมบางทีเวลาเราดูการทดสอบแบบ Blind Test แล้วกล้องที่ได้คะแนนต่ำกว่าถึงสวยกว่ารูปจากกล้องที่ได้คะแนนสูง?

เป็นไปได้หลายเหตุผลมากครับ เช่น

1. ซอฟต์แวร์ที่ทดสอบตอน DxOMark กับตอน Blind Test เป็นคนละรุ่นกัน และเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่ที่นำมาทดสอบ Blind Test ได้รับการปรับปรุงคุณภาพกล้องให้ดีขึ้นแล้ว
2. การทดสอบแบบ Blind Test ไม่ได้มีการควบคุมตัวแปรที่ดีเท่า DxOMark ทำให้บางทีผลที่ได้จึงผิดเพี้ยนไป
3. ภาพที่ทดสอบอาจเป็นการโชว์ประสิทธิภาพในหมวดคะแนนย่อยที่รุ่นได้คะแนนรวมน้อยกว่า ทำคะแนนในหมวดนั้นได้ดีกว่า
4. จอภาพที่เราใช้ดูไม่ได้รับการปรับค่าสีให้ตรง ทำให้ภาพที่เห็นมีการผิดเพี้ยนไป
5. มาตรฐานของเรากับของ DxOMark อาจไม่เหมือนกัน โดย DxOMark มักจะยึด”ความถูกต้องของสีและแสง” แต่เราอาจจะชอบภาพสีสดๆ ชอบใบไม้สีเขียวเกินจริง หรือฟ้าที่ฟ้าเกินจริง หรืออาจจะชอบแบบสีซีดเกินจริงก็ได้

แล้วแบบนี้เราสามารถใช้คะแนน DxOMark มาเป็นตัวตัดสินได้ไหมว่ากล้องรุ่นไหนดีกว่ากัน?

ใช้ได้ครับ แต่เราต้องใช้แบบเข้าใจ เพราะ DxOMark ให้คะแนนโดยอ้างอิงตามความชอบของคนส่วนใหญ่ แต่ทุกคนไม่ได้ชอบเหมือนกันหมดมีจุดประสงค์ในการใช้กล้องไม่เหมือนกัน บางคนใช้กล้องถ่ายสัตว์เลี้ยง บางคนชอบถ่ายวิว บางคนถ่ายรูปรีวิวสินค้า เราจึงควรอ่านบทความประกอบรีวิวที่ทาง DxOMark เขียนและดูคะแนนย่อยประกอบด้วย นอกจากนั้น DxOMark ยังมีคำแนะนำสำหรับการดูคะแนนย่อยมาด้วย ดังนี้

• สายท่องเที่ยวและถ่ายภาพวิว เน้นที่คะแนน Exposure เพื่อให้ได้ภาพที่ Contrast ดีและ Color Accuracy เพื่อให้สีสันที่สวยงาม ตรงกับความเป็นจริง สำหรับบางคนอาจจะดูคะแนน Zoom ด้วยสำหรับถ่ายภาพวิวหรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่สามารถเดินเข้าไปใกล้ๆ ได้
• สายถ่ายภาพครอบครัวและถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำ เนื่องจากการถ่ายภาพชนิดนี้มักถ่ายในบ้าน มีแสงน้อย จึงควรเน้นคะแนน Flash รวมถึงคะแนน Noise ด้วย คะแนน Autofocus ก็สำคัญหากไม่อยากพลาดช็อตสำคัญ และสำหรับคนที่ถ่ายวิดีโอให้ดูคะแนน Stabilization ด้วย Bokeh ก็จำเป็นหากต้องการให้การถ่าย Portrait ดูโดดเด่น น่าสนใจ
• ถ่ายภาพกีฬา เน้นที่ Autofocus เพราะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และ Exposure สำหรับคนที่ถ่ายวิดีโอด้วยให้ดูคะแนน Stabilization และเนื่องจากการถ่ายรูปกีฬาเรามักจะเข้าไปถ่ายใกล้ๆ ไม่ได้จึงต้องเน้นคะแนน Zoom ด้วย
• ถ่ายภาพเพื่อนำไปใช้งานอย่างจริงจัง เช่น นำไปพิมพ์เป็นภาพใหญ่ เน้นที่คะแนน Noise และ Texture เพื่อให้ภาพที่มี Noise น้อย รายละเอียดดี คะแนน Contrast ดี คะแนน Artifact ดี และคะแนน Bokeh สำหรับถ่ายภาพที่ต้องการเน้นตัววัตถุให้โดดเด่นจากพื้นหลัง

ทางเราหวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจการให้คะแนน DxOMark มากขึ้น คะแนน DxOMark ไม่ได้ไม่น่าเชื่อถือหรือเชื่อไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หมายความว่าคะแนนรวมโดดๆ จะสามารถนำมาตัดสินคุณภาพกล้องได้ทันทีเลย แต่ต้องดูปัจจัยต่างๆ คะแนนย่อย และบทความรีวิวของ DxOMark ประกอบด้วยครับ