บ้านกกกอด เชื่อว่าชื่อนี้หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักกันอยู่แล้วล่ะ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นรีสอร์ทหนึ่งที่ผมเองได้เล็งเอาไว้นานมากแล้ว แต่ว่ากว่าจะจองได้นี่ค่อนข้างยากลำบากน่าดู ซึ่งก็คงเป็นเพราะว่าที่พักที่นี่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับบรรยากาศสุดแสนจะธรรมชาติและวิวสวยระดับแพลทินัมที่เราจะได้นั่นเอง
บ้านกกกอดตั้งอยู่ ณ 35 หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งขอแนะนำก่อนว่าใครที่คิดจะมาพักผ่อนที่นี่แล้วควรจะขับรถมาเองเพราะว่ารีสอร์ทอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองพอสมควร และที่รีสอร์ทก็ไม่มีร้านอาหารด้วย ซึ่งเราจะต้องออกไปหาร้านอาหารด้านนอกทานเอง แต่มื้อเช้านั้นทางรีสอร์ทยังคงมีให้อยู่
ส่วนตัวผมขับรถออกจากกรุงเทพไปแบบไม่รีบร้อนมากนักมีแวะกินข้าวก่อนด้วยก็ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงได้ สำหรับใครที่ขับรถแก๊สก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีปั๊มแก๊สให้เติมอยู่เป็นระยะๆ ทั้งนี้ถ้าเจอปั๊มไหนโล่งก็ให้แวะเติมก่อนเป็นดีที่สุด
ห้องพักที่จองได้ครั้งนี้คือห้องพฤกษา 3 ราคา 1,800 บาท ตั้งอยู่โซนด้านในติดทางเข้ารีสอร์ท ไม่ติดเขื่อน ซึ่งเป็นแบบบ้านห้องแอร์ โดยภายในห้องจะมีเตียง โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าเช็ดตัวที่ถูกทำเป็นรูปเป็ด ที่ตากผ้า อยู่ครบ จะไม่มีเหมือนรีสอร์ทอื่นก็คือตู้เย็นซึ่งก็ดีอยู่ เพราะพอเปิดห้องเข้าไปห้องก็ค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว แทบไม่ต้องพึ่งแอร์เลย ทั้งนี้บ้านที่พักนั้นมีที่นอนเล่นด้านบนด้วย ซึ่งต้องปีนบันไดเหล็กในห้องขึ้นไป
ส่วนน้ำเปล่าในห้องก็มีให้ตามมาตรฐานคือ 2 ขวด ขนาด 500 มล.
ห้องพักทั้งหมดของรีสอร์ทมีดังนี้
– บ้านกระท่อมไม้ 1 ห้อง
– บ้านริมบึง 2 ห้อง
– บ้านวิวเขือน 5 ห้อง
– บ้านชมดาว 5 ห้อง
– บ้านพฤกษา 6 ห้อง
– บ้านริมน้ำ 2 ห้องนอน
เก็บของเรียบร้อย ได้เวลาไปพักผ่อนรับชมและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติกันแบบสุดๆ แล้วล่ะ แต่พอเดินออกมาจากห้องพักกลับเจอน้องเป็ดมารอต้อนรับซะงั้น
เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงสะพาน แค่มองเห็นสะพานนี้ผมก็รู้สึกหายเหนื่อยละ สะพานไม้ที่เดินมีเสียงดังแกร๊กๆ เอี๊ยดๆ ขนาบข้างด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสูง ดูสวยงามเสียจริงๆ
เดินมาสุดสะพานก็จะเจอกับแพริมน้ำที่ถูกสร้างเอาไว้อย่างลงตัวกับบรรยากาศของที่นี่ ซึ่งก็มีที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนกันไป หรือหากใครอยากจะลงไปเล่นน้ำก็มีการกั้นเขตเล่นน้ำพร้อมเสื้อชูชีพเอาไว้ด้วย แน่นอนว่าจะพายเรือก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ขึ้นเองลงเองนะจ๊ะ
ขาเดินไปมองดูสะพานว่าสวยแล้ว ขากลับเดินมาเห็นบ้านพักพร้อมวิวภูเขาด้านหลังนี่ก็สวยไม่แพ้กันเลย
ทั้งนี้สะพานที่สามารถเดินไปตรงเขื่อนได้นั้นมิได้มีสะพานเดียว ยังมีอีกสะพานอยู่อีกด้านนึงของที่พักซึ่งอยู่ใกล้กันกับที่รับประทานอาหาร โดยสะพานนี้จะแตกต่างหน่อยตรงที่มีที่นั่งเล่นเพื่อชมวิวหญ้าสูงกับภูเขาด้วย
แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้สวยแค่ตอนกลางวันเท่านั้น ตอนกลางคืนเองก็สวยไม่แพ้กัน แต่ตอนที่ไปถ่ายรูปตอนกลางคืนได้ยินเสียงน้ำกระเพื่อมตลอดเวลา ทำเอาผมไม่กล้าเดินไปที่เขื่อนเลยทีเดียวล่ะ ฮ่าๆๆ
ทั้งนี้ถ้าหากมาถูกจังหวะไม่เจอฟ้าปิดแบบนี้ ก็อาจมีโอกาสได้ถ่ายรูปท้องฟ้าพร้อมดวงดาวกันได้เลยล่ะครับ
ส่วนที่รับประทานอาหารตอนเช้าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ และชั้นสองจะมีโซฟาให้นั่งชิลกันได้อีกด้วย ทั้งนี้อาหารเช้าจะมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ ข้าวต้ม หรือ อาหารเช้าแบบฝรั่ง ซึ่งผมเองก็ได้เลือกอาหารเช้าแบบฝรั่งไปเพราะถ้าไม่อิ่มสามารถเติมข้าวต้มได้อีกนั่นล่ะ
สำหรับรีสอร์ทบ้านกกกอด นั้นถือเป็นที่พักกายและฟอกปอดพร้อมวิวระดับแพลทินัมที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพจริงๆ เพราะสามารถเดินทางไปเที่ยว 2 วัน 1 คืนได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตัดขาดโลกภายนอกก็ว่าได้ หรือจะมาถ่ายรูปเล่นกับบรรยากาศธรรมชาติก็ดีเช่นกันครับ แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสผมคงจะกลับมาพักผ่อนที่นี่อีกแน่นอน
Facebook: Baankokkod