ในงาน Mobile World Congress 2016 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น SONY ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรี่ส์ใหม่ในชื่อ Xperia X ซึ่งเป็นการยุบรวมสมาร์ทโฟน Xperia ซีรี่ส์ต่าง ๆ เช่น Z, M, T, C ฯลฯ ให้เข้ามาอยู่ในตระกูล Xperia X แทน ซึ่งในช่วงแรกนั้นได้เปิดตัวมาก่อน 3 รุ่นคือ X Performance (เรือธง สานต่อตระกูล Z แต่ยกเครื่องวัสดุใหม่และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในบางจุด) , X (รุ่นระดับกลาง สานต่อตระกูล M หน้าตาเหมือนกับ X Performance ยกเว้นฝาหลัง) และ XA (รุ่นราคาไม่ถึง 10,000 บาท สานต่อจากรุ่น T3 รูปทรงและขนาดคล้ายกับ X และ X Performance แต่ใช้ดีไซน์แบบไร้ขอบจอ) และในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น SONY ก็ได้ทำการเปิดตัว Xperia XA Ultra ซึ่งเป็นภาคต่อของ Xperia C5 Ultra โดยที่ยังคงคอนเซปต์เดิมก็คือเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เน้นถ่ายเซลฟี่ ซึ่งรูปร่างหน้าตาของ XA Ultra นั้นเหมือนเป็นการจับเอา XA มาขยายให้ใหญ่ขึ้นเป็นจอ 6 นิ้วนั่นเอง
ข้างบนที่เขียนไปนั้นเป็นข้อมูลความเป็นมาแบบคร่าว ๆ ของสมาร์ทโฟนตระกูล Xperia X ครับ ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นหรืออ่านอะไรแบบนี้ที่ไหนมาก่อนก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะผมเป็นคนเดียวกันกับคนที่เขียนกระทู้ รีวิว Xperia™ X Performance – The Masterpiece from Sony. นั่นเอง และตอนนี้หลาย ๆ คนก็คงทราบกันดีแล้วว่า SONY ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นในงาน IFA 2016 นั่นก็คือ Xperia XZ (ภาคต่อของ X Performance) กับ Xperia X Compact (ภาคต่อของตระกูล Z Compact แต่สเปคเหมือนรุ่น X ธรรมดา) แต่เนื่องจากเรียงตามไทม์ไลน์แล้ว 2 รุ่นนี้มาทีหลัง เพราะฉะนั้นรีวิวนี้จะไม่พูดถึง 2 รุ่นที่ว่ามานะครับ แต่จะนำไปเปรียบเทียบบางจุดกับ X Performance ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกมาก่อนแทน
Sony Xperia XA Ultra สี Lime Gold
Specifications
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับด้วย Xperia Home
- หน่วยประมวลผล MediaTek MT6755 (64 บิต 8 คอร์)
- หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T860MP2
- Ram 3 GB หน่วยความจำในเครื่อง 16 GB
- รองรับการ์ด microSD™ 200 GB
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1080p หรือ Full HD มาพร้อมกับระบบปรับแต่งการแสดงผล Mobile BRAVIA Engine 2
- กล้องหลังความละเอียด 21.5 ล้านพิกเซล โฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 88 องศา สามารถโฟกัสอัตโนมัติ มีแฟลชและ OIS
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบนาโนซิม
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro USB 2.0
- Bluetooth 4.1
- มี NFC
- มีวิทยุ
- แบตเตอรี่ความจุ 2,700 mAh
- ราคา 14,990 บาท
Unbox
ตั้งแต่ Sony ยุบสมาร์ทโฟนทุกตระกูลเข้าด้วยกันเป็นตระกูล Xperia X นั้น ดีไซน์ตัวกล่องนั้นก็เปลี่ยนไปจากเดิมด้วย โดยที่รุ่นก่อน ๆ จะโชว์รูปผลิตภัณฑ์พร้อมชื่อรุ่นบนกล่อง แต่สำหรับกล่องของตระกูล X ทุกรุ่นจะเป็นกล่องกระดาษสีขาวล้วน ๆ และมีคำว่า XPERIA อยู่ตรงกึ่งกลางวางทับโลโก้ X สีจาง ๆ อีกทีนึง
และย้ายชื่อรุ่นไปไว้ตรงขอบกล่องด้านล่างแทน
เปรียบเทียบขนาดของกล่องระหว่าง XA Ultra กับ X Performance
อุปกรณ์ภายในกล่องที่ได้มารีวิวนั้นมีแค่อแดปเตอร์ธรรมดากับสายชาร์จเท่านั้น เครื่องที่วางขายจริงจะมีหูฟังแถมมาให้ด้วย
รอบ ๆ กล่องจะเป็นลวดลาย Wallpaper แต่ละแบบที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนตระกูล Xperia X
Materials & Design
หน้าตาของ XA Ultra เหมือนจับเอา XA มาขยายให้ใหญ่ขึ้นแล้วเพิ่มกล้องหน้าขนาดใหญ่และแฟลชเข้าไป ด้านหน้าเป็นกระจกแบบ 2.5 D ขอบจอบางมากจนดูเหมือนไม่มีขอบเลยและลำโพงสนทนาอยู่ชิดกับขอบด้านบน
เทียบขนาดระหว่าง X Performance กับ XA Ultra
วัสดุด้านหลังนั้นเป็นพลาสติก polycarbonate จากเดิมจะเป็นคำว่า SONY อยู่ตรงกลางเครื่อง แต่ในสมาร์ทโฟนตระกูล Xperia X นั้นได้เอาคำว่า SONY ออกและเอาคำว่า XPERIA มาแทนที่
และตำแหน่ง NFC ของ XA Ultra นั้นอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ต่างจาก X และ X Performance ที่ตำแหน่งของ NFC อยู่ด้านหน้าตัวเครื่องเพราะฝาหลังเป็นโลหะ
ความต่างระหว่างฝาหลังของ X Performance กับ XA Ultra
ขอบเครื่องของ XA Ultra นั้นเป็นโลหะอลูมิเนียม ต่างจาก X และ X Performance ที่เป็นพลาสติก
“สรุปง่าย ๆ คือ ด้านหลังของ XA Ultra เป็นพลาสติก แต่ขอบเป็นโลหะ ส่วนด้านหลังของ X เป็นโลหะแต่ขอบเป็นพลาสติก”
ด้านขวาของตัวเครื่องเรียงจากซ้ายไปขวาจะเป็นปุ่ม Power ปุ่ม Volume และปุ่มชัตเตอร์ ปุ่ม Power ของ XA Ultra นั้นเป็นปุ่มกลม ๆ ขนาดเล็กที่สาวกอารยธรรมคุ้นเคยกันดี ไม่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้
ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นก็จะมีฝาปิดที่ใส่ซิมและ Micro SD
วิธีการใส่ซิมคือแกะที่ปิดออกมาและบิดขึ้นหรือลงก็ได้ตามสะดวก ไม่สามารถถอดแยกออกมาจากตัวเครื่องได้ ตรงส่วนนี้จะไม่เหมือนกับ X และ X Performance ที่จะเป็นถาดใส่ซิม สามารถถอดออกมาจากตัวเครื่องได้
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม.และไมโครโฟน
ส่วนขอบด้านล่างก็จะมีไมโครโฟน พอร์ต Micro USB และลำโพง
Software
XA Ultra มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ที่ถูกครอบทับด้วย Xperia Home หน้า Lockscreen เดิมนั้นจะเป็นสีเดียวเรียบ ๆ โทนเดียวกันกับสีของเครื่องและนาฬิกาเป็นแบบโปร่งแสงเห็นวอลเปเปอร์ของหน้า Homescreen แต่ถ้าเปลี่ยนวอลเปเปอร์ Lock screen ก็จะกลายเป็นนาฬิกาแบบทึบแสง
วอลเปเปอร์ที่มากับเครื่องก็จะแตกต่างกันออกไปตามสีตัวเครื่อง ไล่ตามสีเครื่องจากซ้ายไปขวาได้แก่ สีขาว สีดำ สีทองมะนาว (Lime Gold) และสีชมพู (Rose Gold) ซึ่งตรงนี้เราสามารถเลือกเปลี่ยนธีมทีหลังได้
นอกจากนี้ตัว Xperia Home ยังรองรับ Double Tap to Sleep ที่สามารถเคาะจอ 2 ครั้งเพื่อดับจอได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม Power
ในส่วนของ Notification bar นั้นถ้าลากลงมาหนึ่งทีจะเป็น Notification ต่าง ๆ และถ้าลากลงมายาวเลยก็เป็นการตั้งค่าเบื้องต้นครับ เหมือนในสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus ของ Google
ระบบของเครื่องใช้เนื้อที่ไปราว ๆ เกือบ 6 GB การทำงานของซอฟต์แวร์และระบบ Animation เวลาเข้าออกแอพต่าง ๆ ทำออกมาได้มีความลื่นไหลดี แต่ก็มีข้อติตรงให้เนื้อที่มาเพียง 16 GB เท่านั้น ทำให้ติดตั้งแอพลิเคชั่นและเก็บไฟล์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างน้อย
Keyboard ที่มากับเครื่องเป็นของ SwiftKey เปลี่ยนไปจากของเดิมที่เป็น Xperia Keyboard การใช้งานค่อนข้างง่าย ระบบเดาคำฉลาดบ้างไม่ฉลาดบ้าง และมีธีมพิเศษเฉพาะ Xperia มาให้ด้วย
Performance
สเปคของ XA Ultra นั้นถือว่าดีพอโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้งานทั่ว ๆ ไป สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกสวย ๆ ได้ค่อนข้างลื่น มีคนรีเควสให้ผมลองเล่นเกม Asphalt 8, Modern Combat กับ Seven Knight ก็สามารถเล่นได้ลื่นดีไม่มีปัญหา ส่วนความร้อนก็มีบ้างเวลาเล่นนาน ๆ แต่ก็ไม่มากนัก ร้อนง่ายหายเร็วตามสไตล์ SONY
คะแนนจากแอพ AnTuTu Benchmark
Network
ในส่วนนี้ผมยังไม่ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับสัญญาณ 4G หรือ 3G แต่จากการใช้งานผ่าน WiFi นั้นพบว่า XA Ultra รับสัญญาณ WiFi ได้ดีมาก สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ส่วน GPS ก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างแม่นยำ
Display
หน้าจอแสดงผลของ XA Ultra มีขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD ซึ่งมี Mobile BRAVIA Engine 2 ช่วยในการปรับแต่งการแสดงผลของจอให้ออกมาดีมากขึ้น สามารถปรับภาพได้ 3 โหมดคือ Off ไม่มีการปรับแต่งภาพ , Mobile BRAVIA Engine 2 ปรับแต่งภาพให้ออกมาดีขึ้น กับ Super-vivid mode ที่จะปรับแต่งภาพให้มีโทนสีที่สดใส
จอภาพมีความสว่างและมีความคมชัดดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต อ่าน E-book หรือดูหนังผ่านสมาร์ทโฟนเพราะสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้เป็นอย่างดี
(เพิ่มเติม ถ้าต้องการใช้งานมือเดียวก็สามารถย่อให้ภาพแสดงผลเล็กลงได้ ตรงนี้ลืมเก็บภาพมาเลยไม่มีตัวอย่างให้ดู)
“ลองจับมาวางเทียบกับ X Performance จะพบว่าสีของภาพหม่นกว่าเล็กน้อยและมี Contrast น้อยกว่า”
Sound
ลำโพงของ XA Ultra เป็นลำโพงเดี่ยว ตำแหน่งของลำโพงอยู่ตรงขอบด้านล่าง เมื่อเร่งเสียงสุดแล้วเสียงดังมากแต่คุณภาพเสียงที่ได้ไม่ค่อยมีมิติเท่าไหร่ แต่ถ้าเน้นเสียงดังเป็นหลักเวลาดูหนังหรือว่าฟังเพลงก็ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี ทดลองฟังเสียงผ่านหูฟัง SONY MDR-EX750AP ก็ถือว่ามีคุณภาพเสียงใช้ได้แต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก XA Ultra ไม่รองรับ Hi-Res Audio แต่ก็สามารถบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้
Camera
กล้องหลัง
กล้องหลังของ XA Ultra มีความละเอียดอยู่ที่ 21.5 ล้านพิกเซล f/2.2 สามารถ Autofocus ได้ การเปิดกล้องถือว่าทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถถ่ายแบบเร่งด่วนได้ด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ กล้องจะเปิดขึ้นมาและทำการถ่ายรูปให้ทันทีหนึ่งรูปโดยอัตโนมัติ (ตรงนี้เราสามารถตั้งค่าให้เปิดกล้องเฉย ๆได้) ถึงแม้จะไม่มีระบบ Predictive Hybrid Auto Focus แบบ X กับ X Performance แต่ XA Ultra ก็มีฟีเจอร์ Object tracking มาให้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ถือว่าทำงานได้ดี
และปัญหาหนึ่งที่อยู่คู่กันกับ Xperia มานานแสนนานก็คือเรื่องความร้อนเวลาเปิดใช้งานกล้องเป็นเวลานาน ซึ่งใน XA Ultra ก็พบปัญหานี้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าแอพจะไม่ได้ปิดตัวลงทันทีแต่ความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นก็มากพอที่จะทำให้ไม่อยากถ่ายต่อ
โหมด Manual ก็ยังมีลูกเล่นมาให้เลือกสำหรับถ่ายในสถานการณ์ต่าง ๆ ตามแบบฉบับ Sony แต่ถ้าต้องการจะตั้งค่าเองก็จะมีให้ปรับแค่ White Balance กับชดเชยแสงเท่านั้น
และโหมดลูกเล่นฟรุ้งฟริ้งอื่น ๆ ก็จะรวมอยู่ในนี้ สามารถลบหรือโหลดเพิ่มเติมได้
.
.
.
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Auto
.
.
กล้องหน้า
สำหรับกล้องหน้าที่เป็นจุดขายของ XA Ultra นั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบ Autofocus, LED flash และระบบกันสั่น (OIS) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Sony ให้ระบบกันสั่นแบบที่เป็น hardware มาให้
แต่เวลาใช้งานจริงนั้นความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ 15 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถเลือกได้ที่ 2 ความละเอียดคือ 12MP อัตราส่วนภาพ 4:3 หรือ 15MP อัตราส่วนภาพ 16:9
สำหรับแฟลชของกล้องหน้าก็สามารถเลือกปรับได้ตามความต้องการ
แฟลชกล้องหน้ามีความสว่างมาก ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตาควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งาน
ทดลองถ่ายภาพโดยปิดไฟและผ้าม่านในห้องตอนกลางคืนแล้วเปิดแฟลช
.
.
.
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
.
.
.
การถ่ายวิดีโอ
กล้องหลังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 30 FPS
ตัวอย่างวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องหลัง
กล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p มีโหมด Video stabilizer
ตัวอย่างวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องหน้า
ตอนนี้ท่านผู้อ่านคงสงสัยแล้วว่ากล้องหน้าที่มี OIS มาให้นั้นทำไมเวลาถ่ายวิดีโอแล้วถึงสั่นมากกว่ากล้องหลังเสียอีก แล้วจะใส่ OIS มาให้ทำไม?
.
.
.
.
.
และนี่คือคำตอบ
เป็นที่รู้กันดีในหมู่สาวกอารยธรรมว่าปุ่มชัตเตอร์ของ Xperia นั้นถ้ามือไม่นิ่งจริงแล้วหล่ะก็ เวลากดถ่ายภาพภาพที่ได้จะออกมาเบลอหนักมาก ซึ่ง Sony ได้ทำการแก้ไขตรงนี้ด้วยการใส่ OIS มาให้ในกล้องหน้าเพื่อช่วยให้ภาพออกมานิ่งมากขึ้นเวลาที่เราต้องการถ่ายเซลฟี่แบบ Landscape ด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ และตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ข้างบนนั้นก็ถ่ายด้วยวิธีการกดปุ่มชัตเตอร์เกือบทุกรูป
“สรุปก็คือใส่ OIS มาเพื่อช่วยในการถ่ายเซลฟี่ล้วน ๆ ไม่ได้ช่วยในการถ่ายวิดีโอแต่อย่างใด”
Battery
ทำการทดสอบโดยการต่อ WiFi และเปิด GPS เอาไว้ตลอดเวลา เปิดแสงหน้าจอให้ปรับอัตโนมัติ เล่นโซเชียลกับถ่ายรูปเป็นหลักพบว่าสามารถอยู่ได้ราว ๆ 1 วันครึ่ง
หลังจากนั้นชาร์จแบตให้เต็มแล้วทำการทดสอบแบบ screen on ด้วยการเปิดเกม Unpossible ทิ้งเอาไว้จนแบตหมดเกลี้ยง
สามารถอยู่ได้นานเกือบ ๆ 4 ชั่วโมง
Overall
ราคาค่าตัวของ Sony Xperia XA Ultra นั้นอยู่ที่ 14,990 บาท ซึ่งผมมองว่านอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นการถ่ายเซลฟี่แล้วยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้ดีมากอีกรุ่นนึงด้วย ถ้าใครที่ชอบดูหนังผ่านสมาร์ทโฟนแบบจอใหญ่สะใจแล้วเปิดเสียงดัง ๆ ไปด้วย เลือก XA Ultra มาทำหน้าที่นี้ก็คงไม่ผิดหวัง ส่วนเรื่องการใช้งานโดยทั่ว ๆ ไปก็ทำได้ดีเพราะซอฟต์แวร์ของ Sony ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสเถียรอยู่แล้ว การถ่ายภาพก็ถือว่าโอเคในสมาร์ทโฟนราคาระดับหมื่นกลาง ๆ ส่วนลูกเล่นอื่น ๆ ไม่ค่อยมีอะไรที่หวือหวามากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์จีนและในราคาระดับเดียวกันนี้มีอีกรุ่นนึงที่ไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ นั่นก็คือ Asus ZenFone 3 รุ่นจอ 5.5 นิ้วที่กำลังมาแรง เนื่องจากลูกเล่นต่าง ๆ ค่อนข้างจัดเต็มมากทั้งในด้านประสิทธิภาพในการใช้งาน กล้องถ่ายภาพ และคุณภาพของเสียง ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีหลายอย่างที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน แต่เนื่องจากขนาดจอที่ต่างกันพอสมควรก็ต้องเลือกเอาว่าคุณจะเลือกอะไร ระหว่างสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เน้นถ่ายเซลฟี่เป็นหลัก ชอบดูหนังดูซีรี่ย์เป็นชีวิตจิตใจ ในส่วนนี้ XA Ultra ตอบโจทย์ได้ดี หรือว่าต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูง กล้องโหมดโปรที่ปรับได้เยอะ ฟีเจอร์ครบครันในราคาหมื่นกลาง ๆ ในส่วนนี้ ZenFone 3 ก็สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้หมด