cropped-cropped-edtaro-logo-2.jpg

เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!

เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Tesla ได้จัดงานเปิดตัว Tesla Semi รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าและได้เซอร์ไพรส์ผู้ร่วมงานและคนที่ดูถ่ายทอดสดด้วยการเปิดตัว Tesla Roadster รุ่นที่ 2 ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟน ๆ และบรรดา Car guy ทั้งหลายได้มากพอสมควร เดี๋ยววันนี้ทาง NuaNia จะมาเจาะให้ดูว่าเพราะอะไรถึงทำให้เจ้า Tesla Semi และ Tesla Roadster มีคนสนใจและเป็นกระแสบนโลกโซเชียลได้มากมายขนาดนี้


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



เริ่มกันที่ Tesla Semi หัวลากไฟฟ้าบ้าพลังกันก่อน หลังจากที่มีข่าวลือกันมานานว่า Tesla กำลังซุ่มทำหัวลากไฟฟ้าอยู่ในที่สุดก็ถูกเผยโฉมออกมาเรียบร้อย โดย Elon Musk CEO ของ Tesla ได้บอกว่าหัวลากไฟฟ้าบ้าพลังคันนี้สามารถเร่งจากตอนหยุดนิ่งไปจนถึงความเร็ว 60 ไมล์ต่อชั่วโมง (ตีแบบหยาบ ๆ ก็ราว ๆ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยใช้เวลาเพียงราว ๆ 5 วินาที ต่อให้บรรทุกเต็มพิกัดด้วยน้ำหนัก 80,000 ปอนด์หรือประมาณ 36,287 กิโลกรัมก็ยังสามารถเร่ง 0-60 ได้ภายในเวลา 20 วินาที และในขณะที่วิ่งขึ้นเนินความชัน 5% Grade นั้นก็ยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 65 ไมล์ต่อชั่วโมง ถือว่าทำความเร็วได้มากกว่าหัวลากของยี่ห้ออื่น ๆ โดยพละกำลังทั้งหมดนี้มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ถ่ายกำลังสู่ล้อ 4 ล้อด้านหลัง


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!


และ Elon Musk ยังบอกอีกว่าเจ้า Tesla Semi นั้นมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (drag coefficient) เพียง 0.36 ซึ่งน้อยกว่ารถไฮเปอร์คาร์สุดโหดอย่าง Bugatti Chiron ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศอยู่ที่ 0.38



เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



มาดูภายในกันบ้าง ลืมภาพหัวลากที่มีเกจวัดกับปุ่มรก ๆ ไปได้เลย เพราะภายใน Tesla Semi มีเพียงจอใหญ่ ๆ 2 จอขนาบข้างที่นั่งคนขับที่อยู่กึ่งกลางของรถพอดี ดูแล้วทัศนวิสัยโปร่งกว่าหัวลากทั่วไปมาก


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



สำหรับระยะทางในการวิ่งนั้น Elon บอกว่าถ้าบรรทุกเต็มพิกัด Tesla Semi สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 ไมล์หรือประมาณ 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยบริโภคไฟฟ้าน้อยกว่า 2 kWh ต่อไมล์ และชาร์จ 30 นาทีสามารถวิ่งได้ไกล 400 ไมล์ด้วยสถานีชาร์จแบบใหม่ Megacharger สำหรับ Tesla Semi โดยเฉพาะ ซึ่งเตรียมวางโครงข่ายสถานีชาร์จแบบใหม่ไว้ทั่วโลก


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



Elon บอกอีกด้วยว่า Tesla Semi มีความทนทานมากและรับประกันว่าจะไม่มีทางพังก่อนวิ่งถึง 1 ล้านไมล์แน่นอน!


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



มาต่อกันที่ Tesla Roadster หลังจากที่ Tesla เปิดตัว Roadster รุ่นแรกไปเมื่อราว ๆ 10 ปีก่อน มาวันนี้ Tesla ได้สานต่อตระกูล Roadster อีกครั้งด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำยุค และสมรรถนะสุดโหดชนิดที่เรียกว่าไม่ไว้หน้าไฮเปอร์คาร์คันไหนในโลกนี้เลยทีเดียว


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



Tesla Roadster สามารถเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยเวลา 1.9 วินาที เป็นครั้งแรกในโลกที่รถเดิม ๆ จากโรงงานสามารถออกตัวจากตอนหยุดนิ่งไปแตะที่ความเร็วระดับนี้ได้ต่ำกว่า 2 วินาที และเร่ง 0-100 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.2 วินาที ด้วยอัตราเร่งที่เร็ว แรง ทะลุนรกแบบนี้ทำให้ Tesla Roadster เบียด Dodge Challenger SRT Demon ขึ้นแท่นเป็น Production Car ที่วิ่ง 1/4 ไมล์ได้เร็วที่สุดในโลกด้วยเวลา 8.8 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 250 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว ๆ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และวิ่งได้ไกลถึง 621 ไมล์


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



เบื้องหลังอัตราเร่งสุดโหดของ Tesla Roadster อยู่ที่แบตเตอรี่ขนาด 200 kWh ที่ส่งพลังงานไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมี 1 ตัวถ่ายกำลังลงล้อคู่หน้า และ 2 ตัวถ่ายกำลังลงล้อคู่หลัง ทำให้มีแรงบิดสูงถึง 10,000 Nm !!! พร้อมที่จะกระชากวิญญาณทันทีที่เอาเท้าสะกิดคันเร่ง


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



มาดูภายในกันบ้าง เบาะสีขาวดูเรียบหรูและชวนซิ่งไปในตัว รองรับผู้โดยสารได้ 4 คน แต่ดูแล้วเบาะหลังคงนั่งได้เฉพาะคนตัวเล็ก ๆ เท่านั้น


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!



หลังคาเป็นหลังคาแก้วน้ำหนักเบา และคุณสามารถถอดเก็บมันไว้ท้ายรถได้ถ้าอยากจะรับลมเย็น ๆ


เจาะสเปค Tesla Semi และ Tesla Roadster รุ่นใหม่ ตรงไหนที่ทำให้เจ๋ง!


Tesla Roadster จะเริ่มผลิตในปี 2020 แต่ก็เปิดให้จองกันได้แล้ววันนี้สำหรับรุ่นปกติที่ราคา 200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยวางเงินจองไว้ก่อน 50,000 ดอลล่าร์ และรุ่น Founders Series ที่จำกัดจำนวน 1,000 คัน ราคา 250,000 ดอลลาร์ โดยผู้ที่จองรุ่น Founders Series ต้องชำระเงินเต็มจำนวนตั้งแต่ตอนจอง



การมาของ Tesla Semi และ Tesla Roadster นั้นถือว่าเป็นการสั่นสะเทือนวงการยานยนต์เลยก็ว่าได้ และนี่อาจเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญที่ทำให้โลกได้เห็นว่ารถไฟฟ้านั้นไม่ได้มีจุดด้อยไปกว่ารถสันดาปเลยแม้แต่น้อย

เขียนไว้เมื่อ (20/11/2017)

ความเห็น

edtaro.com © 2024 All rights reserved