บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG VS HEV รถยนต์สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นแรกของเอ็มจี ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตลาด B-SUV ด้วยแนวคิด “ABSOLUTE” เป็นตัวตนขั้นสุด หลุดจากทุกมิติเดิมๆ ของการขับขี่ด้วยยนตรกรรมไฮบริด โฉบเฉี่ยวด้วยภาษาดีไซน์สุดล้ำตั้งแต่ภายนอกสู่ภายในห้องโดยสาร เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป พร้อมจำหน่ายและให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่งทั่วประเทศ
NEW MG VS HEV สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “ABSOLUTE” เพื่อบ่งบอกถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ไม่ว่าจะเป็น ด้านดีไซน์ ทั้งการออกแบบภายนอก ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย ไฟหน้าแบบ LED Projector ที่เปิด-ปิดได้อัตโนมัติที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) และไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว มี AERO WHEEL COVER ที่ช่วยลดแรงต้านลม ห้องโดยสารแนวใหม่แบบ Modern & Stylish และครั้งแรกของยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอ ควบคุมการทำงานผ่าน ILLUMINATED TOUCH PANEL และคอนโซลกลางแบบ DOUBLE LAYER ด้านบนตกแต่งด้วยวัสดุ PIANO BLACK พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความหรูหรา ด้านล่างมีที่เก็บของ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับทั้งTYPE C และ TYPE A
ด้านเทคโนโลยี NEW MG VS HEV มาพร้อมระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบไฮบริดมาพร้อมด้วย KERS MODE ตั้งค่าได้ 3 ระดับ ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ จอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ความคมชัดระดับ HD ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลได้อย่างหลากหลาย และโหมด Navigation แสดงการนำทาง คู่กับหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART พร้อม Apple CarPlay และสามารถเล่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้ มอบความบันเทิงตลอดการเดินทางด้วย Music application ของ JOOX
ด้านความสะดวกสบาย สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นนี้ ให้ความสำคัญกับทั้งคนขับและผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) อีกทั้งยังมีช่องแอร์ และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งด้านหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
ด้านสมรรถนะและระบบความปลอดภัย NEW MG VS HEV อัปเกรดการขับขี่ให้เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT มั่นใจทุกการเคลื่อนไหวด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย
NEW MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น D และรุ่น X โดยรุ่น D จะมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับรุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทนสีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White)
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถทดลองขับและสัมผัสการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจกับเทคโนโลยีไฮบริดของ NEW MG VS HEV ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเอ็มจีมีกำหนดทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป