รีวิว FICIHP K1 คีย์บอร์ดมีจอสัมผัส รองรับทุกระบบ

Fichihp คีย์บอร์ดมีหน้าจอสัมผัส ได้สร้างกระแสตั้งแต่ริเริ่มไอเดีย ระดมทุนบน Kickstarter ได้เงินไปประมาณ 11,674,542.37 บาท และทาง The Digital STM ก็นำเข้ามาวางขายในประเทศไทยที่ราคา 15,900 บาท โดยมีให้เลือก 2 รุ่นคือ FICIHP K1 ที่เป็นปุ่มตื้นพร้อม Numpad น้ำหนัก 1.1 กก. กับ FICIHP K2 ที่เป็น Mechanical Keyboard แต่ไม่มี Numpad และหนัก 1.36 กก.

ตัวที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้เป็นรุ่น FICIHP K1 ซึ่งผมชอบตรงที่มี Numpad ทำให้ป้อนข้อมูลตัวเลขได้สะดวกกว่า และต้องบอกว่า FICIHP K1 เป็นแป้นภาษาอังกฤษล้วน ถ้าพิมพ์สัมผัสไม่ได้ก็คงต้องหาสติ๊กเกอร์ภาษาไทยมาแปะ

ปุ่มกดมีไฟส่องสว่างแบบ RGB แต่ก็ไม่ได้สว่างมากนัก ต้องอยู่ในห้องที่มืดๆ จึงจะเห็นได้ชัดเจน ส่วนหน้าจอแบบสัมผัสก็มีสีสันที่ตรงในระดับเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป แต่ไม่เหมาะกับการแต่งรูปอย่างจริงจัง ซึ่งก็เหมาะกับลักษณะการใช้งานจริงที่น้อยคนจะแต่งรูปในจอนี้

วิธีการใช้งานหน้าจอบน FICIHP K1 และ FICIHP K2

ในเชิงเทคนิคแล้วหน้าจอบน FICIHP ก็คือหน้าจอเสริม ดังนั้นเราสามารถตั้งค่าเป็น External Monitor ได้เหมือนหน้าจอทั่วไป เพียงแค่เสียบสาย USB-C ที่มีมาให้ในกล่องก็พร้อมใช้งานแล้ว

ในกรณีใช้ Windows แนะนำให้ลากหน้าจอ FICIHP วางไว้ในตำแหน่งด้านล่างของจอหลัก เพื่อให้มี UX ที่ดี แบบลากเมาส์จากจอหลักลงมาก็เจอจอ FICIHP ซึ่งการใช้งานร่วมกับ Windows ถือว่าทำงานได้สมบูรณ์แบบ แสดงผลเต็มหน้าจอ และใช้จอสัมผัสได้ถูกต้อง

แต่ FICIHP K1 ไม่เหมาะกับการใช้งานร่วมกับสินค้าฝั่ง Apple เลย อย่าง macOS ก็ทำงานได้สับสนพอตัว โดยเราต้องลากเมาส์มาวางไว้บนหน้าจอ FICIHP ก่อน ถึงจะสัมผัสสั่งการจอนี้ได้ แต่ถ้าเมาส์ยังอยู่บนหน้าจอหลัก แล้วเราไปสัมผัสบนหน้าจอเสริม ผลก็คือจะเกิดการคลิกมั่วบนหน้าจอหลัก

ส่วนการใช้ร่วมกับ iPad ที่มีช่องเสียบแบบ USB-C ก็สามารถแสดงผลได้แต่ไม่เต็มจอ และการสัมผัสก็ทำงานเพี้ยนในลักษณะเดียวกันกับ macOS

และการใช้ร่วมกับ Android ทางแบรนด์ก็แนะนำว่าควรใช้ร่วมกับมือถือที่มี Desktop Mode ซึ่งก็คือ Samsung ที่มี Dex Mode และ HUAWEI ที่มี Desktop Mode โดยผมได้ทดสอบกับ Samsung Galaxy Z Fold4 และ HUAWEI Mate Xs 2

การใช้ร่วมกับ Galaxy Z Fold4 ทำงานได้เกือบสมบูรณ์ ก็คือทัชสกรีนทำงานถูกต้อง สัมผัสทัชไม่เพี้ยน แต่แสดงผลได้ไม่เต็มหน้าจอ

ส่วน HUAWEI Mate Xs 2 แสดงผลได้เต็มจอเช่นเดียวกับ Windows และ macOS แต่การสัมผัสเพี้ยนเหมือนฝั่ง Apple

สรุปก็คือ FICIHP K1 ทำงานได้น่าประทับใจบน Windows และทำงานได้ดีบน Android ที่มี Dex Mode

FICIHP K1 คุ้มค่าแค่ไหน?

หากใช้ร่วมกับ Windows ผมมองว่าคุ้มค่ามากครับ เพราะเราสามารถลากแถบเครื่องมือหรือตัวจัดการ timeline, layer ลงมาไว้ในหน้าจอเสริมได้ ทำให้เราควบคุมด้วยการสัมผัสได้สะดวก รวมถึงการใช้หน้าจอเสริมเปิดโปรแกรมอื่นระหว่างที่หน้าจอหลักเปิดงานอยู่ เช่น เปิด YouTube บนจอเสริม หรืออาจถอดออกไปเสียบกับ Android นอนเอนตัวเล่นบนโซฟา ก็สะดวกไปอีกแบบ

บทสรุป

FICIHP K1 เป็นคีย์บอร์ดที่น่าสนใจมากถ้าคุณใช้ Windows และอยากได้ Gadget ล้ำๆ แถมยังสามารถถอดไปเสียบกับมือถือนอนเล่นพิมพ์ง่ายได้ด้วย ถ้าเทียบกับราคา 15900 บาท ราคาอาจจะดูแรงไม่น้อย ได้ Mechanical Keyboard เจ๋งๆ เลย แต่สิ่งที่ FICIHP K1 ให้เราได้มากกว่าก็คือความล้ำครับ

และที่ต้องบอกส่งท้ายก็คือผมได้ทดสอบนำสาย USB-C ทั่วไปมาเสียบเข้ากับ FICIHP พบว่าปุ่มกดทำงานได้ แต่หน้าจอไม่ทำงาน แต่พอสลับไปใช้สายความเร็วสูงอย่างพวก Thunderbolt ก็ใช้งานได้ครบถ้วน