Samsung Galaxy A23 5G วางขายมาพักใหญ่ก็ถึงเวลารีเฟรช เพิ่มความสดด้วยสีใหม่ Silver Bright ในราคาเดิม ถือเป็นการกระเขย่ากระแสอีกครั้งให้กับรุ่นที่ครบเครื่องในราคากลางๆ ได้ทั้ง 5G, หน้าจอ 120Hz, กล้องพร้อม OIS, ระบบเสียง Dolby Atmos และแบตเตอรี่ 5,000 mAh [ สั่งซื้อ https://go.edtaro.com/BOno ]
ราคา 9,999 บาทกับสเปกที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ด้วยราคา 9,999 บาท กับกับสิ่งที่ซัมซุงให้มาถือว่าทุ่มทุนมาก ต้องไม่ลืมว่าราคาที่เราจ่ายมันไม่ใช่แค่เรื่องของสเปก แต่ยังรวมไปถึง Software ที่ปรับแต่งให้ลงตัว รวมถึงบริการหลังการขายด้วย นั่นทำให้ผมมองว่า Galaxy A23 5G เป็นรุ่นที่คุ้มราคามากเมื่อเทียบกับมือถือที่วางขายในปี 2022
ชิปเซ็ตเลือกใช้ Snapdragon 695 แรม 8 GB หน่วยความจำภายใน 128 GB กับหน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และรีเฟรชเรท 120Hz ทำให้ประสบการณ์ใช้งานจริงลื่นไหลทั้งจากตัวระบบเอง และทั้งจากความรู้สึก
และยังให้แบตเตอรี่มามากถึง 5,000 mAh ซึ่งถือว่าเยอะสุดในเกณฑ์มาตรฐานปีนี้ ทำให้ใช้งานห่างปลั๊กได้อย่างสบายใจ จะเป็นการเที่ยวแบบตัวเบาก็เหมาะ หรือบางอาชีพที่ต้องคล่องตัวก็จะถูกใจรุ่นนี้
ในแง่รูปลักษณ์ Galaxy A23 5G ก็ชูจุดขายด้วยการดีไซน์ขอบกล้องหลังให้เชื่อมต่อกับฝาหลังเป็นผืนเดียวกัน มีความโค้งมนในทุกสัดส่วน ทำให้น่าหยิบน่าใช้ไม่ระคายปลายนิ้ว
กล้องสวยแบบคนส่วนใหญ่ชอบ
ผมชื่นชมกล้องของ Samsung Galaxy ในช่วงปีหลังนี้มากๆ ด้วยพลังของ Software และ AI ที่ประมวลผลดึงสีปรับภาพให้ออกมาดูสด เลยทำให้ถูกใจคนส่วนใหญ่ ซึ่งผลสำรวจพบว่าคนส่วนมากชอบภาพที่สีสดและสว่าง ทำให้มือถือรุ่นนี้ถ่ายอาหารออกมาสวยมาก รวมถึงวิวทิวทัศน์บรรยากาศต่างๆ และแน่นอนว่าถ่ายภาพบุคคลก็สวยด้วย
สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างก็คือเราสามารถเพิ่ม Portrait effect หลังจากถ่ายเสร็จแล้ว เช่นกรณีที่ถ่ายภาพบุคคลแล้วลืมเปิดโหมด Portrait เราก็แก้ไขได้ด้วยการมาใส่ทีหลัง
จุดสำคัญอีกอย่างก็คือสเปกกล้องหลังที่ยัดมาให้เยอะแยะ กล้องหลัก 50MP f/1.8 OIS, กล้องมุมกว้าง 5MP f/2.2, กล้องวัดความลึก 2MP f/2.4 และกล้องมาโคร 2MP f/2.4 ทำให้ถ่ายได้ครอบคลุมกิจกรรมประจำวันแทบทั้งหมด โดยเฉพาะกล้องหลักที่มี OIS มาด้วย ทำให้เราสามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้คมชัดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทย ที่ชอบอยู่ในที่ร่มในช่วงกลางวันและออกตะลอนในช่วงแดดหมด
และการมี OIS ก็ช่วยให้งานวีดีโอนิ่งขึ้นด้วย โดย Samsung Galaxy A23 5G ถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุดที่ FHD 30fps ซึ่งเหมาะกับการใช้งานจริงที่สุดแล้ว
ความน่าสนใจของ Software
หากมองย้อนกลับไป จุดเริ่มต้นของ One UI คือการลบภาพจำว่าซัมซุงฟีเจอร์เยอะแต่หน่วง ทำให้ซัมซุงหันมาโฟกัสการ optimize ให้เครื่องลื่นไหลมากขึ้น และการอัพเดท One UI แต่ละครั้งก็สร้างความน่าประทับใจขึ้นเรื่อยๆ โดยจุดที่ผมชอบในรอมของค่ายนี้ก็มีหลายอย่างครับ ตั้งแต่ Knox ที่เหมือนเสมือนฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทำให้ Samsung ได้รับความไว้ใจมากกว่า Android หลายๆ ค่าย สำหรับงานที่ซีเรียสด้านความปลอดภัยมากๆ
และที่ข้ามไม่ได้คือ Galaxy Gift ที่ come back อีกครั้งภายใต้แอป Samsung Members โดย Galaxy Gift เป็นที่ชื่นชอบของนักช้อป ที่ได้กินเที่ยวในราคาพิเศษ รวมถึง Galaxy Store ที่มี Exclusive Deal จับมือกับนักพัฒนาค่ายดัง โดยปรับแต่งให้ใช้งานร่วมกับซัมซุงได้ดี เช่น Adobe Acrobat Reader, Adobe Lightroom, LINER, Scribd
สายเกมมี Game Launcher ที่ช่วยรวบตึงเก็บทุกเกมไว้ในนี้ ไม่ต้องไปเลื่อนหาให้ยาก และยังมีสถิติการเล่นเกมต่างๆ ของเราให้ดูเป็นข้อมูลด้วย ด้านการโทรก็สามารถบันทึกการโทรได้แบบอัตโนมัติด้วย ทำให้ย้อนกลับมาฟังทวนได้ โดยเฉพาะการคุยงานกับเจ้านายหรือลูกค้า ที่บางครั้งเราก็อาจจะเบลอๆ ว่าเราตกลงไว้แบบไหนนะ เราก็ย้อนกลับไปฟังได้
ความรู้สึกจากการใช้งาน Samsung Galaxy A23 5G
ลื่นครับ! รุ่นนี้ปรับแต่งระบบมาได้ลงตัวมาก ใช้งานได้ลื่นจริงๆ แล้วหน้าจอที่รีเฟรชเรทสูงๆ ก็ช่วยให้อนิเมชั่นต่างๆ ดูเนียนตามากขึ้น ทุกอย่างเลยดูลื่นไหลไปหมด
กล้องเมื่อเทียบกับราคาแล้วประทับใจมาก ด้วยไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ของผมที่เน้นกิน ไม่เน้นตากแดดและอากาศร้อน ทำให้ส่วนใหญ่ก็ถ่ายภาพในตัวอาคาร ซึ่งการถ่ายรูปอาหารต่างๆ ดึงสีให้ดูสดน่ากิน การเซลฟี่และถ่ายภาพบุคคลก็จัดการแสงสีได้น่าประทับใจ
การไม่มีเลนส์ซูมที่จริงแล้วก็เหมาะกับการใช้งานจริงของคนส่วนใหญ่ เนื่องด้วยคนส่วนมากไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่ต้องถ่ายซูมไกลๆ แต่ถ้าต้องการซูมจริงๆ ก็กดซูมแบบ digital zoom ได้สุดที่ 10x ซึ่งจะมีการประมวลผลช่วยเพิ่มความคมชัด ซึ่งก็ทำได้ดีระดับหนึ่ง
ปรกติแล้วมือถือที่ให้ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. มักจะเป็นรุ่นล่างๆ ตามกลุ่มเป้าหมาย แต่ Galaxy A23 5G ที่ราคา 9,999 บาทก็ให้ช่องเสียบหูฟังมาด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกได้ดี เหมาะกับคนชอบดูหนังฟังเพลงแบบเป็นส่วนตัว และการให้ช่องเสียบหูฟังเลยทำให้รุ่นนี้รองรับวิทยุ FM ด้วย
น้ำหนัก 197 กรัมกับปี 2022 ถือว่าเป็นเกณฑ์ปรกติไปแล้ว และการดีไซน์ตัวเครื่องกระจายน้ำหนักได้ค่อนข้างดี ทำให้การถือใช้งานเลยไม่รู้สึกหนัก
บทสรุป
ด้วยสเปก ดีไซน์ การปรับแต่งระบบ ทำให้รุ่นนี้มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ตอบโจทย์การใช้งานของคนแทบทุกแบบ มีสมดุลที่ดีมากๆ ทั้งความเร็ว แบตเตอรี่ ดีไซน์ และระบบ เรียกได้ว่าดีแบบรอบด้านเลยครับ ในราคา 9,999 บาท จัดว่าน่าเล่นมากๆ เลย