ทำความรู้จัก Hasselblad แบรนด์กล้องที่ไปไกลถึงอวกาศ

Hasselblad เป็นแบรนด์กล้องจากสวีเดน มีผลิตภัณฑ์เด่นเป็นกล้อง Medium format คือกล้องที่ใช้ฟิล์มใหญ่กว่าฟิล์ม 35 มม. ทั่วๆ ไป และเคยส่งกล้องไปอวกาศกับยาน Apollo มาแล้ว และปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะพาร์ทเนอร์กับแบรนด์มือถือ OPPO และ OnePlus วันนี้เลยอยากจะพามารู้จักกับแบรนด์นี้แบบเต็มๆ ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร และไปอวกาศได้อย่างไร

จุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบถ่ายภาพ

บริษัท Hasselblad ก่อตั้งขึ้นในปี 1841 ณ Gothenburg, Sweden โดย Fritz Wiktor Hasselblad เป็นบริษัททำธุรกิจจัดจำหน่าย โดยใช้ชื่อบริษัทว่า F. W. Hasselblad and Co.

สำนักงานใหญ่ F. W. Hasselblad and Co.

แต่ลูกชายของผู้ก่อตั้ง Arvid Viktor Hasselblad มีความสนใจในภาพถ่าย จึงได้จัดตั้งแผนกด้านภาพถ่ายขึ้นมาในบริษัท ซึ่งเขาได้กล่าวไว้ว่า “ผมไม่คิดว่าแผนกนี้จะทำเงินให้บริษัทมากมายอะไรหรอก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้ถ่ายรูปฟรี”

ปี 1877 ระหว่างที่ Avid Hasselblad ไปฮันนีมูนกับภรรยา เขาบังเอิญได้พบกับ George Eastman ผู้ก่อตั้งบริษัท Eastman Kodak และในปี 1888 Hasselblad ก็ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าของ Eastman Kodak แต่เพียงรายเดียวในสวีเดน ซึ่งทำให้ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จมากจนแยกแผนกถ่ายรูปออกเป็นอีกบริษัทหนึ่งในปี 1908 ในชื่อ Fotografiska AB

George Eastman

ต่อมา Avid Hasselblad เสียชีวิตลง ลูกชายของเขา Karl Erik Hasselblad จึงขึ้นมารับช่วงต่อ และเขาได้ตัดสินใจส่งลูกชายตัวเอง Victor Hasselblad ไปเรียนรู้เกี่ยวกับกล้องที่ประเทศเยอรมันนี เพื่อนำความรู้มาต่อยอดธุรกิจครอบครัว และไปฝึกงานในบริษัทต่างๆ รวมถึงที่ Eastman Kodak ด้วย แต่หลังจากเขากลับมาทำงานกับบริษัทครอบครัวได้ไม่นาน เขากับครอบครัวก็ไม่ความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงตัดสินใจลาออกไปตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ Victor Foto

Victor Hasselblad
VICTOR FOTO

พัฒนากล้องเพื่อกองทัพ

จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพสวีเดนสามารถเก็บกู้กล้องสอดแนมทางอากาศที่ยังใช้งานได้จากซากเครื่องบินเยอรมนีได้ และได้เห็นประโยชน์ของกล้องชนิดนี้ จึงมอบหมายให้ Victor hasselblad ออกแบบกล้องชนิดเดียวกันสำหรับกองทัพสวีเดน เขาจึงก่อตั้งเวิร์คช้อปขึ้นมาในชื่อ Ross AB ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกล้อง HK7 และในปี 1943 คุณ Victor ก็ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ F. W. Hasselblad and Co. และขึ้นแท่นเป็นทั้งเจ้าของและซีอีโอของ Hasselblad

ระหว่างสงคราม นอกจากกล้องสอดแนมแล้ว Hasselblad ยังผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาอีกด้วย ซึ่งธุรกิจก็ยังดำเนินต่อไปหลังสงครามจบ ทาง Hasselblad ก็มีธุรกิจผลิตอะไหล่ให้รถยนต์ยี่ห้อ Saab เพิ่มเข้ามา แต่ความตั้งใจจริงของ Victor คือผลิตกล้องสำหรับคนทั่วไปให้ใช้

กล้อง Hasselblad ถือกำเนิด

ปี 1948 กล้องรุ่นแรกจาก Hasselblad ก็ได้วางจำหน่าย ต่อมารู้จักกันในชื่อรุ่น 1600 F กล้องรุ่นนี้เป็นกล้องที่มีส่วนประกอบอันซับซ้อนและละเอียดอ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมาจากพื้นฐานการผลิตนาฬิกามาก่อนของ Haselblad แต่ความละเอียดอ่อนระดับนี้นั้นไม่เหมาะกับกล้องถ่ายรูปเท่าใดนัก กล้องรุ่นนี้วางขายเพียง 50 ตัวเท่านั้นในปี 1949 และ 220 ตัวในปี 1950 ทาง Hasselblad มีการผลิตกล้องรุ่นปรับปรุงออกมาเรื่อยๆ แต่ก็มักจะมีปัญหาเรื่องเสียง่ายและปัญหาเกี่ยวกับชัตเตอร์

จุดเปลี่ยนของบริษัทเกิดขึ้นในปี 1957 เมื่อพวกเขาวางขาย 500 C ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการดีไซน์ให้กล้องของ Hasselblad อีกกว่า 60 ปีจนถึงปี 2013 ซึ่งทำให้ hasselblad พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในปี 1960

มุ่งสู่อวกาศ

ในปี 1962 NASA ได้ติดต่อ Hasselblad ให้ช่วยออกแบบกล้องรุ่นพิเศษเพื่อใช้ในภารกิจอวกาศ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นกล้องรุ่น 500 EL ที่มีมอเตอร์ขับเคลื่อนเป็นรุ่นแรก และกล้องรุ่นนี้ถูกนำไปใช้ในการถ่ายภาพนิ่งของภารกิจเหยียบดวงจันทร์ของ Apollo 11 นั่นเอง แม้กล้องรุ่น 500 C จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นการเติบโตแบบช้าๆ การร่วมมือกับ NASA นั้นทำให้ชื่อเสียงของ Hasselblad ดังกระฉ่อนและพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว

จากความสำเร็จอันล้นหลาม Hasselblad จึงตัดสินใจขายธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับถ่ายรูปให้กับโกดัก และมาโฟกัสที่การผลิตและพัฒนากล้องอย่างเดียว

ร่วมมือกับ FujiFilm

ในปี 1998 Hasselblad จัดจำหน่ายกล้อง Hasselblad XPan ซึ่งออกแบบและฟลิตโดยฟูจิฟิล์ม มีจุดเด่นคือสามารถถ่ายภาพแบบกว้างพิเศษโดยใช้ฟิล์ม35 มม. จะได้ภาพขนาด 24x65mm ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมในยุคนั้น

สู่โลกดิจิทัล

ในปี 2016 Hasselblad เปิดตัว X1D-50c กล้อง Medium format แบบดิจิทัลรุ่นแรกของโลก โดยนำเอกลักษณ์การดีไซน์จากกล้อง Hasselblad V System และ H System มาปรับปรุงให้เหมาะกับยุคดิจิทัล

ปัจจุับน Hasselblad เป็นของ DJI บริษผลิตโดรนจากจีนชื่อดัง ซึ่งเข้ามาเปิดโอกาสให้แบรนด์ Hasselblad ไปไกลกว่ากล้องถ่ายรูป แต่ได้ไปร่วมมือพัฒนากล้องบนอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นร่วมพัฒนากล้องสำหรับโดรน DJI MAVIC 2 PRO มาพร้อมกับเซนเซอร์รับภาพ 1″ Type

ร่วมพัฒนากล้องบนสมาร์ทโฟนกับแบรนด์ OPPO และ OnePlus ที่นำเสน่ห์ของกล้อง XPAN มาใช้ในรูปแบบโหมดการถ่ายภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก