รีวิว Karamenya Masumoto ราเมงเผ็ดจากญี่ปุ่น …ที่เผ็ดกว่าในญี่ปุ่น

หากคุณเป็นคนรักในเส้น ซุป และพริก แนะนำว่าควรลอง Karamenya Masumoto สักครั้ง กับราเมงที่โดดเด่นเรื่องความเผ็ดที่ทำให้เราหัวร้อนชุ่มเหงื่อ แม้จะนั่งในร้านกลางห้างเซ็นทรัลพระราม 9 แต่ก็ร้อนได้ …และแน่นอนว่าคนที่รักในการกินเผ็ดอย่างผมก็ไม่พลาดที่จะลองร้านนี้

จุดเด่นของร้าน Karamenya Masumoto

สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษและอยู่ในโลโก้ของร้าน ก็คือความเผ็ดร้อน และต้องบอกว่าที่ไทยมีการปรับสูตรให้เผ็ดกว่าต้นตำรับด้วย นอกจากความเผ็ดแล้ว วัตถุดิบและการปรุงของทางร้านก็มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจครับ

ราเมงดังจากญี่ปุ่น สาขาแรกในไทย

Karamenya Masumoto พึ่งจะเปิดสาขาในไทยช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยร้านนี้เดิมทีมีชื่อเสียงที่จังหวัดมิยาซากิ และทางผู้บริหารก็ได้ลองนำมาเปิดสาขาที่ไทย ความแตกต่างจากที่ญี่ปุ่นคือเรื่องของความเผ็ดร้อนที่เดือดกว่าต้นตำรับ เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วคนไทยนับเป็นชนชาติที่กินเผ็ดอยู่แล้ว ถ้าจะใช้เกณฑ์ความเผ็ดแบบญี่ปุ่น คนไทยอาจไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้ ดังนั้นการนำเข้ามาขายในไทยจึงมีการปรับสูตรให้เผ็ดขึ้นกว่าเดิม …ซึ่งพนักงานบอกเรื่องนี้ หลังจากที่ผมสั่งแบบเผ็ดสุดและกินหมดชามแล้ว

และด้วยความที่ร้านพึ่งเข้ามาทำตลาดในไทย และยังมีการปรับระดับความเผ็ด หรือเรียกง่ายๆ ว่าช่วงปรับสูตรลองตลาดอยู่ พนักงานจึงแจ้งผมว่าถ้ามีความเห็นเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปติดชมได้ในเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมของร้านครับ

ไม่เจนสนาม อย่าริสั่งแบบเผ็ดสุด

เมื่อเปิดเล่มเมนูของ Karamenya Masumoto กางออกมา เมนูดูหลากหลายเยอะไปหมด แต่วิธีการสั่งแบบเข้าใจง่ายๆ คือ

  1. เลือกซุปคาระเม็ง มี 3 ซุป คือ ซุปโซยุ, ซุปมะเขือเทศ และซุปขาว
  2. เลือกระดับความเผ็ด ระดับ 0 คือไม่ใส่พริก ระดับ 1, 2 เผ็ดแบบไม่ต้องเพิ่มเงิน ส่วนระดับ 3, 4, 5 ต้องเพิ่มเงินตั้งแต่ 30 บาทจนถึง 90 บาท
  3. เลือกเส้นราเมง โดยมีเส้นแบบดั้งเดิม, เส้นบะหมี่, และเส้นเล็ก
  4. เลือกเครื่องเคียง ในภาพรวมเนื้อมีให้เลือก 2 แบบคือกระดูกอ่อนหมูตุ๋นเปื่อย และหมูชาชู อีกส่วนคือต้นหอม 2 แบบได้แก่ ต้นหอมสับ และต้นหอมขาวสับ

เมนูที่ผมลองวันนี้คือ คาระเม็งซุปโชยุ ต้นหอมสับ กระดูกอ่อนหมูตุ๋ยเปื่อย ในราคา 360 บาท บวกความเผ็ดสุดระดับ 5 อีก 90 บาท และน้ำเปล่าอีกขวดพร้อมน้ำแข็งราคา 30 บาท …แต่ขอเตือนว่าถ้าคุณไม่ใช่คนที่ถือคติ “เผ็ดแปลว่าอร่อย” ผมแนะนำว่าอย่าสั่งความเผ็ดเกินระดับ 3

บอกตามตรงเลยว่าที่ลองร้านนี้เพราะอยากรู้ว่ามันจะเผ็ดสักแค่ไหนกัน และเผ็ดแล้วอร่อยไหมหรือแค่สาดๆ พริกลงไปเฉยๆ …คิดยังไม่ทันตกผลึก พนักงานก็ยกชามมาวางตรงหน้า ในแง่ปริมาณก็ต้องบอกว่าให้มาเยอะมาก ผมหยิบ iPhone 11 Pro Max มาวางเทียบ ให้เห็นภาพมากขึ้น ส่วนช้อนที่ให้มา 2 คัน เป็นแบบช้อนซุปปรกติ กับช้อนตะแกรงที่ใช้ตักเฉพาะเนื้อๆ เพื่ออรรถรสในการกินที่แตกต่าง

สีสันความดุเดือดของน้ำซุปละม้ายคล้ายหมาล่า แต่รสชาติไปกันคนละทางเลย โดยซุปโซยุบวกกับความเผ็ดของเมนูนี้ เป็นความเผ็ดที่มาจากพริกสดและกระเทียม น้ำซุปติดรสเปรี้ยวปลายๆ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นรสชาติของซุปอยู่แล้ว หรือเป็นผลจากการที่ใส่พริกเยอะมากๆ

แต่ตัวแปรความเถื่อนยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเหนือน้ำซุปร้อนๆ ยังปกคลุมไปด้วยส่วนผสมที่คล้ายไข่ตีรวนผสมเนื้อหมู พร้อมกับเม็ดพริกที่ลอยกระจายทั่วชาม ยิ่งเพิ่มความระอุภายในปากขึ้นไปอีกระดับ 

แต่ยิ่งเผ็ดร้อนมากแค่ไหนคนรักพริกแบบผมก็ยิ่งชอบ เราจะไม่ปล่อยให้ซุปเย็นชืดอยู่บนช้อน แต่เราจะคีบเส้นแล้วซดน้ำพร้อมเครื่องตามทันที …ยิ่งคีบ ยิ่งซด เหงื่อก็ยิ่งไหล แม้จะไว้ผมสั้น แม้จะอยู่ในห้องแอร์ แต่จังหวะนี้เหงื่อต้องมาแล้วล่ะครับ

กระดูกอ่อนหมูตุ๋นเปื่อย เป็นอีกสิ่งดีงามในชามนี้ เนื้อนุ่มเปื่อยเคี้ยวง่าย กระดูกอ่อนก็ไม่แข็งและไม่เละ อยู่ในระดับได้เนื้อสัมผัสกำลังดี ยิ่งตักซุปรสจัดจ้านซดตาม มันลงตัวเหมือนเอาเนื้อเปื่อยๆ ลงไปคลุกกับน้ำจิ้มรสเด็ด 

ที่สำคัญคือเส้นแบบดั้งเดิมมีความแข็งกรุบเล็กๆ แม้หน้าตาจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก แต่เนื้อสัมผัสมีความแข็งกว่า …ปรกติแล้วผมจะไม่ชอบก๋วยเตี๋ยวที่เส้นแข็ง แต่เส้นแข็งกรุบในเมนูนี้กลับผสมผสานลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ รู้ตัวอีกทีก็ซดน้ำแทบจะหมดชามแล้ว

อร่อยระดับที่ต้องซ้ำรึเปล่า?

ว่ากันตามตรง วินาทีแรกที่ออกจากร้าน ผมรู้สึกว่ารสชาติยังไม่ดึงดูดมากพอที่ผมต้องพยายามกลับมาซ้ำอีกครั้ง แม้ผมจะจัดหนักกับความเผ็ดสูงสุดหมดชามด้วยความสะใจเล็กๆ แต่ก็แอบคิดว่าความเผ็ดมันกลบรสชาติอื่นๆ ไปรึเปล่านะ

แต่พอทิ้งระยะไว้หลายๆ วัน จินตนาการมันย้อนวันวาน หวนคิดถึงทุกสิ่งในชามนั้น ทำเอาต่อมรับรสฟุ้งซ่านไปหมด จนรู้สึกว่าต้องหาโอกาสกลับไปซ้ำอีกสักรอบ แต่คราวนี้อาจจะลดระดับความเผ็ดจาก 5 ลงมาเหลือสัก 3-4 เพื่อให้ได้รสสัมผัสในส่วนอื่นมากขึ้น

บทสรุปรีวิว Karamenya Masumoto

ถ้าคุณเป็นคนชอบความเผ็ดขั้นสุด ไปร้านไหนก็ไม่ถึงใจ ร้าน Karamenya Masumoto ก็คงเป็นหนึ่งในคำตอบของคุณ แต่ถ้าคุณไม่กินเผ็ด ตัดเรื่องพริกและกระเทียมออกไป เมนูร้านนี้ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ดี แต่จะถูกปากไหม จะถูกใจรึเปล่า อันนี้ต้องลองเองครับ