เรื่องย่อ
อีธาน ฮันต์ ได้รับภารกิจใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม เขาต้องตามหาอาวุธที่สามารถทำลายล้างมวลมนุษยชาติได้ และศัตรูของเขาก็ฉลาดในแบบไม่ธรรมดา ภารกิจนี้กลายเป็นภารกิจที่นอกจากจะอันตรายต่อชีวิตของเขาแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อชีวิตของเหล่าเพื่อนๆ ร่วมภารกิจในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One (MI7) สนุกไหม
Mission: Impossible ถือหนังแฟรนไชส์ที่ไม่ธรรมดา เริ่มจากการเป็นหนังสร้างจากทีวีซีรีส์ที่ปกติแทบจะการันตีการเจ๊งแบบ 99% ต่อให้ไม่เจ๊งก็ไม่มีทางมีชีวิตยืนยาวถึง 27 ปี 7 ภาค นอกจากแฟรนไชส์นี้จะทำในสิ่งที่เรื่องอื่นทำไม่ได้แล้ว ยังรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างเหนียวแน่นอีกด้วย หนึ่งในส่วนประกอบที่ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จคือดารานำอย่าง Tom Cruise ที่ผูกพันกับซีรีส์นี้มากจนถึงกับโปรดิวซ์เอง เพื่อให้ทุกอย่างออกมาตามวิสัยทัศน์ของเขา
ภาคนี้ยังกำกับโดย Christopher McQuarrie ที่อยู่กันมายาวๆ ตั้งแต่ภาค 5 เค้าคือผู้ที่เข้าใจหัวใจของหนังเรื่องนี้และเข้าขากับ Tom Cruise เขาสามารถนำความรู้สึกที่ผู้คนหลงใหลจากการดูภาคเก่ามาผสมผสานกับสิ่งใหม่ๆ ที่เขาเติมลงไปได้อย่างพอดิบพอดี ปสานกับฉากสตั๊นท์ที่เล่นเดองของ Tom Cruise ที่ช่วยยกระดับการมีอารมณ์ร่วมของผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม ความยากของภาคนี้คือภาคเก่าๆ ทำไว้ดีมากอยู่แล้ว เค้าจะทำอย่างไรให้ภาคนี้ดีกว่าเดิมขึ้นไปอีก แต่พวกเขาก็ยังทำได้ ไม่ว่าจะด้านซีนแอ็คชั่นที่มีความสลับซับซ้อนของสถานการณ์มากขึ้น เนื้อเรื่องที่จริงจังกับดราม่าและความสัมพันธ์ของตัวละครที่มากขึ้น รวมถึงเนื้อหาและธีมเรื่องที่นำสถานการณ์ปัจจุบันมาพูดได้อย่างลงตัวและถูกจังหวะเวลามากๆ ทุกอย่างถูกผสมผสานกันกลายเป็นความยอดเยี่ยมของภาคนี้ จนเราก็มีคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “ภาคต่อไปจะทำให้ดีขึ้นกว่าภาคนี้ได้อย่างไร?” แต่เราเชื่อมือ Christopher McQuarrie และ Tom Cruise ว่าพวกเขาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง
อีกส่วนที่โดดเด่นชัดเจนคืองานภาพที่แบบควันๆ หมอกๆ ถ่ายย้อนแสง และอาทิตย์ยามเย็นที่เป็นฝีมือของ Fraser Taggart ที่ผลงานที่ผ่านมาเป็นแค่ Second unit director แต่มาจับหนังใหญ่ก็ฝากฝังผลงานไม่ธรรมดาไว้ อยากให้ทุกคนดื่มด่ำกับงานภาพของภาคนี้มากๆ ครับ