เมื่อปีก่อนทีมงานและผองเพื่อนได้ไปอัพเกรดลิ้นเป็น 4K ที่ร้านรสดีเด็ดสาขาสามย่าน ซึ่งเป็นของเฮียนพ จนทำเอาใครหลายคนลิ้นเสียไม่สามารถไปกินปิ้งย่างที่อื่นได้อีก เพราะรู้สึกเคยตัวกับความอร่อยของที่นี่ไปแล้ว มาคราวนี้ปี 2016 ก็ได้ข่าวว่าเฮียนพและป๋ากุ้งของเราได้พยายามสรรหาของอร่อยมาให้เราได้สัมผัสเป็นบุญลิ้นอีก ก็เลยได้เวลารวมพลขนหมู่คณะไปถล่มกันอีกที

รสดีเด็ดสาขาสามย่าน หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ “รสดีเด็ด by นพ” ซึ่งถ้าเล่าประวัติเดี๋ยวจะยาวแต่เอาเป็นว่าชื่อนี้เป็นตำนานมาหลายสิบปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อจนมาถึงรุ่นเฮียนพ ซึ่งพี่น้องแต่ละคนก็นำชื่อนี้ไปต่อยอดในแบบของตัวเอง ส่วนสาขาที่เฮียนพดูแลมี 2 ที่คือ ประตูน้ำและสามย่าน แต่ที่สามย่านจะพิเศษกว่าสาขาอื่นตรงที่มีส่วนของปิ้งย่างด้วยนั่นเอง

ถ้าใครยังไม่รู้จักปิ้งย่างร้านนี้ แนะนำให้ย้อนไปอ่านที่รีวิวเก่าก่อนเพื่ออรรถรสแห่งความหิวที่ดียิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่อาจไม่ใช่เรื่องพิศดารอะไรแต่ทำได้ดีก็คือการเลือกใช้เตาแบบดูดควัน ทำให้ควันไม่คลุ้งฟุ้งทั่วห้องให้กลิ่นติดเสื้อ และน้ำอัดลมที่เป็นบุฟเฟ่ต์เทจากขวดจริงๆ ไม่ใช่แบบเจือจางผสมให้เสียรสชาติ

แม้ว่าผมจะเป็นสายเนื้อขนานแท้ ที่แทบไม่ต่างจากนายพรานที่พกหน้าไม้เข้าป่าหวังล่าเนื้อ แต่ระหว่างทางผมก็นิยมแวะชิมเมนูโปรดอย่างซุปเนื้อรสเผ็ดที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์กับรสชาติที่ไม่จัดเกินไป บวกกับความนุ่มของเนื้อในถ้วยซุปแล้วมันสุดจะบรรยายจริงๆ รวมถึงไข่ตุ๋นฝีมือป๋ากุ้งที่ไม่เหมือนใครเพราะความเนียนและนุ่มจนแทบจะเหมือนขนมพุดดิ้งแบบว่ากลืนได้ลื่น ก็ยังมีมันบดที่เป็นสูตรเฉพาะตัวแบบที่มีความหวานนุ่มและใส่ส่วนผสมอื่นให้เคี้ยวกันหนึบหนับ

…นอกจากเมนูที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ก็มีเมนูง่ายๆ อย่างปูอัดกับวาซาบิให้กินเล่นระหว่างรอพิธีอัญเชิญเนื้อมาลงเตา

แม้ว่าจะมีพริก กระเทียมและมะนาวไว้ให้สำหรับปรุงรสน้ำจิ้ม แต่ผมก็มักเลือกที่จะไม่ปรุงเพราะถ้าชิมอย่างละเมียดแล้วจะรู้ว่าน้ำจิ้มของที่นี่มีรสกลมกล่อมกว่าร้านทั่วไป จนไม่อยากปรุงให้เสียของ

แต่ผมมักจะขอถ้วยเพิ่มสำหรับบีบมะนาวไว้จิ้มกับเนื้อจำพวกบาเว็ต ซึ่งจะซึมซับรสชาติของเนื้อและความนุ่มได้ดีกว่า …ส่วนพริก กระเทียม ไว้ปรุงในช่วงท้ายๆ เพื่อเปลี่ยนรสชาติบ้าง

เนื้อวัวของที่นี่แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 กลุ่มคือกลุ่มของเนื้อหมักที่มีความหนานุ่ม ได้กัดได้เคี้ยว ซึ่งบาเว็ตก็จัดอยู่ในกลุ่มของเนื้อหมักครับ

อีกกลุ่มก็คือเนื้อสไลด์ที่บางและสุกง่าย ย่างแบบไม่ต้องสุกมากก็จะได้ความนุ่มที่ละมุนลิ้นกันเลยทีเดียว ซึ่งเนื้อทั้ง 2 กลุ่มนี้ยังมีแยกย่อยอีกพอสมควร ถ้าไม่อยากคิดเยอะก็สั่งแบบรวมเลยก็ได้ครับ จะเป็นเนื้อหมักรวม หรือเนื้อสไลด์รวมก็ตามสะดวก

ฝั่งของเนื้อหมูก็ไม่น้อยหน้าเพราะป๋าเราก็คัดเลือกหมูมาเป็นอย่างดี แบบที่ว่าเพื่อนสายหมูของผมต้องเอ่ยปากชม และก็ยังมีกลุ่มของซีฟู๊ดที่มีกุ้งสดๆ เสิร์ฟให้ไม่อั้นจนหายอยาก

เมนูที่ผมต้องสั่งทุกครั้งก็คือเนื้อสไลด์ติดมัน เพราะสุกง่ายและมีความชุ่มฉ่ำของมันที่ไม่มากจนเกินไป และเห็ดออรินจิกับหอมหัวใหญ่สำหรับตัดรสของเนื้อแก้เลี่ยน รวมถึงกิมจิที่รสชาติกำลังดีไม่เปรี้ยวจนเกินไป

มีหลายเมนูที่ไม่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์แต่น่าสนใจโดยเฉพาะ Super Steak หรือที่มีชื่อเล่นว่า “เนื้อนุ่มน่าเกลียด” ที่หลายคนติดใจในความนุ่ม แต่วันนี้ขอเปลี่ยนเป็นยำเนื้อกันบ้าง เมนูนี้ให้ความรู้สึกสดชื่น fresh ด้วยความเปรี้ยวนิดๆ ของซอสที่ราดบนหอมหัวใหญ่ที่หั่นและซึมซับรสชาติของซอสไว้ เมื่อใช้ตะเกียบคีบเนื้อขึ้นมาพร้อมกับหอมหัวใหญ่หั่นและกระเทียม แล้วเผด็จศึกภายในหนึ่งคำก็จะพบถึงความผสมผสานอย่างลงตัวของความเปรี้ยว ความสดชื่น และความนุ่มของเนื้อ …จัดว่าเด็ด

มาถึงทีเด็ดซึ่งเป็นเมนูลับแบบที่ไม่มีเขียนอยู่ในเมนู เพราะต้องถ่ายรูปบรรยากาศในร้านแล้วเช็คอินก่อนถึงจะมีสิทธิ์สั่งได้ นั่นก็คือเนื้อหนอกซึ่งถ้าดูผ่านๆ นึกว่าเนื้อวากิวเนื่องด้วยลายมันที่เบียดแทรกอยู่ทุกอณูของเนื้อ กับกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่คีบลงไปบนเตาแล้วยากจะอดใจรอ

การย่างเนื้อหนอก ไม่ควรย่างจนสุกเพราะจุดเด่นของเนื้อชนิดนี้คือลายมันที่แทรกอยู่ ถ้าเราย่างให้สุกก็จะสูญเสียความอร่อยส่วนนี้ไปด้วย ดังนั้นควรย่างเพียงด้านเดียวแล้วพลิกอีกด้านมาอังไฟก็พอแล้ว… และเพื่อให้นำเนื้อลงไปนอนในถ้วยน้ำจิ้มได้ง่าย ผมก็เลยคีบขึ้นมาวางบนจานแล้วบรรจงม้วนเนื้อที่ไล่เบียดความมันที่อาบผิวอยู่ และพอได้สัมผัสบนลิ้นเท่านั้นล่ะ… มันหอม มันฉ่ำ มันนุ่ม ไม่อยากจะหยุดกินเลย

เมนูลับอีกอย่างก็คือเนื้อฮารามิ ที่มีความนุ่มในแบบที่แตกต่างจากเนื้อหนอก ผมชอบแบบไม่สุกมากและจิ้มกับน้ำมะนาว ก็จะได้ความนุ่มชุ่มฉ่ำแบบที่สมกับเป็นเมนูลับของร้านนี้

สุดท้ายก็คงต้องบอกว่าหนึ่งปีผ่านไป ราคาก็ยังเท่าเดิมและคุณภาพก็ไม่ได้ลดลงเลย แต่กลับยิ่งโดดเด่นขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำโดยเฉพาะเมนูลับทั้ง 2 อย่าง และที่นี่มีจุดเด่นอีกอย่างก็คือ ทุกคนที่ผมพามาลองก็จะค้นพบเมนูโปรดเฉพาะตัว ซึ่งแต่ละคนอาจชอบเมนูต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือทุกคนติดใจจนต้องหาโอกาสกลับมาที่นี้อีกหลายๆ ครั้ง

บุฟเฟต์ปิ้งย่างคุณภาพระดับนี้คงต้องบอกว่าคุ้มเกินราคา …แนะนำให้หาโอกาสไปลองสักครั้งในชีวิตครับ