ในย่านสยามสแควร์มีร้านอาหารอยู่มากมาย ทั้งที่เด่นชัดและแบบที่อยู่ในซอกซอย หนึ่งในร้านที่เราไม่อยากให้คุณพลาดคือ KidDon ที่อยู่ในโซนใกล้กับโรงหนังลิโด้ โดยพระเอกของร้านคือ ข้าวหน้าเนื้อวากิวคาโกชิมา จากวัวที่ได้รับรางวัล ในราคาชามละ 295 บาทเท่านั้น!

ข้าวหน้าเนื้อวากิวคาโกชิมา เหตุผลที่คนหลั่งไหล

ที่ร้าน KidDon โดดเด่นเรื่องความนุ่มของเนื้อ โดยมีเมนูที่คัดมาให้เราแล้วคือ

• เนื้อไทยวากิวดรายเอจ 30-45 วัน เริ่มต้นที่ 159 บาท
• เนื้อพิคานย่าดรายเอจ 30-45 วัน เริ่มต้นที่ 205 บาท
• เนื้อบาเวทดรายเอจ 30-45 วัน เริ่มต้นที่ 205 บาท
• เนื้อชัคโรลดรายเอจ 30-45 วัน เริ่มต้นที่ 205 บาท
• เนื้อวากิวทาจิมา Full Blood เริ่มต้นที่ 245 บาท ( เมนูใหม่ )
• เนื้อวากิวคาโกชิมา A4-A5 เริ่มต้นที่ 295 บาท

โดยเมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือเนื้อวากิวคาโกชิมา ระดับ A4-A5 และด้วยความที่เนื้อเกรดดีระดับนี้ ทางร้านเลยพยายามรักษารสชาติให้คงเดิมที่สุด ไม่มีการนำไปหมักหรือปรุงใดๆ เลยทั้งสิ้น การปรุงให้สุกจะให้การจับเวลาทุกขั้นตอน เพื่อให้มีความสุกในระดับที่เค้นความนุ่มออกมาได้สุงสุด และเมื่อสุกได้ที่ก็จะนำมาหั่นและจัดเรียงลงจาน

เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการเนื้อปริมาณกี่กรัม จะเป็นแบบวางลงข้าวหรือสเต็กก็ได้ ซึ่งครั้งนี้เราลองแบบสเต็ก ทางร้านแนะนำว่าคำแรกควรเป็นการคีบเนื้อขึ้นมากินแบบเพียวๆ ไม่ต้องจิ้มหรือโรยเกลือพริกไทย เพื่อให้เข้าถึงรสชาติและเนื้อสัมผัสของเนื้อที่ได้รางวัล

เนื้อเดิมๆ แบบไม่ปรุง มีความนุ่มของเนื้อแดงสลับกับความนุ่มของมันที่แทรก และกลิ่นของความเป็นเนื้อที่หอมนวล หลังจากที่ซึมซับความดั้งเดิมแล้ว ทางร้านก็แนะนำให้ราดน้ำซอสสูตรพิเศษลงไป โดยสูตรของทางร้านจะผสมให้ซอสมี texture เพื่อให้ตัวซอสเกาะอยู่บนเนื้อ ในขณะที่ตัวน้ำซอสไหลลงไปบนข้าว

เนื้อวากิวทาจิมา Full Blood เมนูใหม่ นุ่มแบบเลี่ยงมัน

เมนูใหม่ของร้านอย่างเนื้อวากิวทาจิมา Full Blood มีความโดดเด่นด้านความนุ่ม หอมเข้มข้น เหมาะสำหรับคนที่เลี่ยงของมันโดยเฉพาะสาวๆ และที่สำคัญคือราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

แม้ว่าจะมันแทรกน้อยกว่า ราคาถูกกว่า แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกด้อยกว่าเนื้อวากิวคาโกชิมาเลย เพราะมันให้ความรู้สึกคนละแบบ ด้วยความที่มันแทรกไม่ได้เยอะเท่า และได้ความนุ่มของเนื้อแดง ทำให้ความรู้สึกได้เนื้อๆ เน้นๆ กว่า

หลังจากได้ลองชิมเนื้อเพียวๆ แบบไม่ปรุงแต่งใดๆ ผมก็ลองราดน้ำซอสลงไปบนเนื้อตามที่ทางร้านแนะนำ สิ่งที่ได้คือความหวานหอมเพิ่มขึ้นมา แต่ไม่แนะนำให้ราดทั้งชามนะครับ เผื่อไว้โรยเกลือพริกไทยให้ได้มีหลายรสชาติก็ดี

นอกจากเนื้อที่ทำได้ดีแล้วอีกสิ่งที่อยากชมก็คือเครื่องดื่ม โดยเฉพาะชาเขียวที่ทางร้านเลือกใช้แบบคุณภาพ ทำให้มีรสชาติออกมาน่าสนใจ

บทสรุป

จัดเป็นร้านที่ทีมงานแนะนำครับ และถ้างบพอก็ควรสั่งแบบเพิ่มเนื้อเป็น 150 กรัม หรือจะสั่งแยกเป็นสเต็กเลยก็ดี เพราะขนาด 100 กรัมกับราคานี้มันคุ้มค่าก็จริง แต่พอเจอของอร่อยเราก็อยากกินเยอะๆ ดังนั้นแนะนำว่าสั่งเพิ่มครับ จะได้ไม่ต้องอารมณ์ค้างตอนออกจากร้าน